Current Duties
Courses
ICT Ideas
ICT Education
ICT Management
ICT Principles
ICT Standards
ICT Vocabulary
CMM / CMMI
Case Studies
General Articles
Presentations
Book Reviews
Buddhism
Personal Efficiency
Writing Guides
Research Guides
VIP
Q & A
Contacts
Archive
Seminars
คำแนะนำด้านการเรียน
ข้อสอบสนุก

 

Home
IT Idea for Spiritization

การอภิปรายเรื่อง MIS สำหรับโรงเรียน ในการสัมมนาเรื่อง โรงเรียนในฝันขุมพลังทางปัญญาของชุมชน

     เมื่อประมาณปลายเดือนกรกฎาคม 2546 นี้ ผมได้รับการทาบทามให้ไปร่วมอภิปรายเรื่อง MIS สำหรับโรงเรียน ในการสัมมนาเรื่องโรงเรียนในฝันที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ จอมเทียม พัทยา ประจวบเหมาะกับที่การประชุมอีกเรื่องหนึ่งของผมที่เชียงใหม่มีอันต้องเลื่อนออกไปอย่างกะทันหัน ผมก็เลยตอบรับไปสัมมนาครั้งนี้ แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสจะฟังท่านนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร พูดในการเปิดสัมมนาที่ไบเทค และน่าเสียดายที่ไม่สามารถอยู่ร่วมสัมมนาได้ตลอดหมดทั้งรายการ

     การสัมมนาครั้งนี้เป็นงานช้างทีเดียว เพราะมีผู้เข้าร่วมสัมมนาราวสี่พันคน และผู้ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการจัดสัมมนาครั้งนี้ก็คือ สถาบันราชภัฎสวนดุสิต การจัดงานโดยทั่วไปเรียบร้อยดี จึงต้องขอชมเชยมา ณ ที่นี้

     แนวคิดของสัมมนาเรื่องนี้ก็คือ พยายามผลักดันให้เกิดโรงเรียนในฝัน ในทุก ๆ อำเภอ จนเกิดเป็นคำขวัญว่า หนึ่งอำเภอหนึ่งโรงเรียนในฝัน ความจริงแล้วทุกวันนี้ก็มีโรงเรียนระดับต่าง ๆ ในทุกอำเภออยู่แล้ว แต่รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะให้อย่างน้อยหนึ่งโรงเรียนในแต่ละอำเภอเป็นโรงเรียนที่เป็นต้นแบบในทางที่ดี ทั้งทางด้านการเรียนการสอน การใช้ ICT การบริหารจัดการ การสะสมปัญญาความรู้ และอื่น ๆ ด้วยเหตุนี้เองผมจึงได้รับเชิญให้ไปพูดเรื่อง MIS ในการอภิปรายเรื่องที่สองของรอบเช้าที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์

     ความจริงผมก็ได้ฟังการอภิปรายเรื่องแรกเหมือนกัน เป็นเรื่องเกี่ยวกับการบริหารจัดการโรงเรียน แต่ความที่ผมนั่งฟังอยู่กับวิทยากรและประธานในการสัมมนา จึงมัวแต่สนทนาอยู่ ไม่สามารถจับประเด็นมาเล่าให้ท่านทราบได้ ขอนำไปสู่เนื้อหาของการอภิปรายในรอบที่ผมพูดก็แล้วกันครับ

     ผู้นำอภิปรายในหัวเรื่อง MIS สำหรับโรงเรียน ก็คือ อาจารย์วิพากษ์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของกระทรวงศึกษาธิการ ผู้อภิปรายก็มี ดร. นิพนธ์ เสือก้อง แห่งโรงเรียนปลวกแดงพิทยา อาจารย์ สมศักดิ์ ครองยุทธ์ คุณประยงค์ กุศโลปกรณ์ และ ผม

     ผมได้รับมอบหมายให้พูดก่อนในเรื่องของ MIS ผมจึงพูดอภิปรายว่า สำหรับผมแล้ว MIS ไม่ใช่เรื่องอะไรที่ยุ่งยากเลย หากก็คือ การบริหารจัดการที่ดีโดยการใช้ข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ ยุคนี้เป็นยุคที่การบริหารจัดการต้องเปลี่ยนแนวคิดไปจากเดิมมาก แม้ทางพรรคไทยรักไทยจะเน้นด้านคิดใหม่ทำใหม่ ผมก็ยังคิดว่าไม่พอ ต้องคิดเร็วและทำเร็วด้วย แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องคิดรอบคอบด้วย ในการที่จะคิดเร็วทำเร็วนั้นผู้บริหารจะต้องใช้ข้อมูลที่ถูกต้องเป็นปัจจุบัน และจะต้องค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วด้วย ผมเน้นว่าระบบที่ให้ข้อมูลแก่ผู้บริหารนั้นมีมานานแล้ว แต่การมีคอมพิวเตอร์ช่วยให้การจัดเก็บและค้นข้อมูลทำได้เร็วขึ้นกว่าเดิม

     สำหรับข้อมูลที่โรงเรียนจะต้องใช้นั้น ผมเห็นว่ามีอยู่ด้วยกัน 9 กลุ่ม คือ

  • กลุ่มที่ 1 ข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียน ได้แก่ ประวัติ ผลการเรียน สุขภาพ ความสามารถ ความเจ็บป่วย ปัญหาส่วนตัว ข้อมูลเหล่านี้จะกลายเป็นข้อมูลนักเรียนเก่าซึ่งทางโรงเรียนควรสนใจหารายละเอียดอื่น ๆ มาเก็บเช่น จบแล้วไปเรียนต่อด้านใด ประกอบอาชีพอะไร
  • กลุ่มที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ปกครอง ได้แก่ ชื่อ ความสัมพันธ์กับนักเรียน อาชีพ ความสัมพันธ์กับโรงเรียน ข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการเรียนหรือโรงเรียน
  • กลุ่มที่ 3 อาจารย์และบุคลากร ได้แก่ ข้อมูลประวัติ ผลงาน ประวัติการสอน ผลการประเมิน ผลงานทางวิชาการ โครงการที่เกี่ยวข้อง
  • กลุ่มที่ 4 การดำเนินการ ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับโรงเรียน เช่น การสร้างอาคารใหม่ ข้อมูลบัญชีและการเงิน ข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตร การเรียนการสอน การดำเนินการอื่น ๆ
  • กลุ่มที่ 5 ทรัพย์สิน ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับ อาคารและสิ่งปลูกสร้าง ห้องเรียน อุปกรณ์การสอน อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และเครื่องมือทดลองวิทยาศาสตร์ ฯลฯ
  • กลุ่มที่ 6 ผู้ค้ากับโรงเรียน ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ขายสินค้าและบริการให้แก่โรงเรียน เช่น ผู้ขายเครื่องคอมพิวเตอร์ ผู้ขายอุปกรณ์เครื่องเขียน ฯลฯ
  • กลุ่มที่ 7 มิตรสหาย ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับ โรงเรียนอื่น ๆ สถาบันอุดมศึกษา เพื่อนอาจารย์ รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับ หลักสูตรวิชาระดับอุดมศึกษา และ ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ที่บรรดามิตรสหายจัดทำขึ้น
  • กลุ่มที่ 8 สิ่งแวดล้อม ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อม เช่น ชื่อและตำแหน่งข้าราชการในท้องถิ่น โครงการในท้องถิ่น เศรษฐกิจท้องถิ่น ทรัพยากรในท้องถิ่น ภูมิปัญญา แหล่งท่องเที่ยวและสาธารณประโยชน์ทั้งหลาย
  • กลุ่มที่ 9 กฎระเบียบและรายละเอียดเกี่ยวกับหน่วยเหนือ ได้แก่ชื่อผู้บังคับบัญชาระดับต่าง ๆ กฎระเบียบและรายละเอียด ฯลฯ

     ผมเน้นว่าการจัดทำระบบ MIS ต้องพยายามจัดหาข้อมูลเหล่านี้ให้ได้ เพราะจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการบริหารจัดการโรงเรียนให้ประสบความสำเร็จ

     (ดร. นิพนธ์) อภิปรายว่า การบริหารโรงเรียนในปัจจุบัน จำเป็นจะต้องคิดว่าทำอย่างไรจึงจะให้ผู้บริหารโรงเรียนของรัฐทำงานได้เหมือนกับผู้บริหารเอกชน เวลานี้ผู้บริหารโรงเรียนไทยต้องทำงานภายใต้ภาวะความขาดแคลน งบประมาณก็จำกัด แต่ภาครัฐก็อยากให้ผู้บริหารเป็นมือ Professional
     การที่จะบริหารได้เช่นนั้นจำเป็นที่ผู้บริหารจะต้องใช้ข้อมูล และข้อมูลที่ต้องนำมาใช้มากที่สุดเป็นเรื่องของ Partner แทนการเรียกว่า Stake holder โดยเฉพาะก็คือ SSPPCC

  • S แรก คือ School ได้แก่ข้อมูลที่โรงเรียนต้องใช้ได้แก่นักเรียน อาจารย์ และ การเรียนการสอน
  • S สองคือ Sponsor ซึ่งขอเรียกว่าหุ่นส่วน
  • P แรกคือ Parents คือ พ่อแม่
  • P สองคือ Principal ได้แก่ผู้บริหาร
  • C แรกคือ Community คือ ชุมชน
  • C สองคือ Commitment คือ ภารกิจ

     ดร. นิพนธ์เห็นว่า ผู้บริหารควรกำหนดทิศทางของโรงเรียนให้ชัดเจน จากนั้นต้องกำหนดเป้าหมายและกลยุทธ์ในการดำเนินการ โดยที่การกำหนดกลยุทธ์เราต้องตอบคำถามต่าง ๆ ต่อไปนี้ให้ได้ จัดแล้วนักเรียนจะได้อะไร , ผู้ปกครองจะได้อะไร , หลักสูตรควรเป็นอย่างไร , จะมีวิธีจัดการเรียนการสอนอย่างไรจึงจะมีคุณภาพ , ทำอย่างไรจึงจะทำให้เด็กนักเรียน เรียนแล้วมีความรู้จริง , ทำอย่างไรให้ครูมีศักยภาพเพียงพอ , ในเมื่อโรงเรียนมีเงินจำกัดจะบริหารอย่างไร , หากผู้บริหารโรงเรียนตอบคำถามเหล่านี้ในทางบวกได้ ก็จะทำให้เกิดรากฐานของการเรียนการสอนที่ดี

     (อ. สมศักดิ์ ครองยุทธ์) อภิปรายว่า ภาวะของโรงเรียนในเวลานี้ คือ ขาดครู ขาดคน ขาดข้อมูล ที่โรงเรียนทั้งหลายล้วนมีปัญหาว่าทำอย่างไรจึงจะได้ข้อมูลสำหรับใช้ในการบริหาร ทุกวันนี้เรามีปัญหาเด็กสามด้านคือ โง่ เจ็บ และ จน อ.สมศักดิ์เชื่อว่าครูน่าจะเป็นหมอวิเศษสำหรับช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ หากแก้ไม่เป็นก็เท่ากับโรงเรียนบริหารงานไม่สำเร็จ
     อ. สมศักดิ์ยอมรับว่า ข้อมูลเป็นปัญหาที่ยากมาก ข้อมูลที่โรงเรียนปฏิบัติได้น่าจะดูจาก Outcome ของโรงเรียน นั่นคือดูผลสัมฤทธิ์ของการเรียน และ สุขภาพของนักเรียน อ.สมศักดิ์เสนอให้เก็บข้อมูลเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง

     (คุณประยงค์) อภิปรายว่า ดร. อมรวิทย์ นาครทรรพ์ได้สรุปไว้ในข้อเขียนว่าโรงเรียนไทยทุกวันนี้มีความขาดแคลนไปทุกเรื่อง แต่วันนี้ดีใจที่ทางกระทรวงศึกษาฯ ได้พยายามส่งเสริมการจัดการข้อมูลและสารสนเทศให้เป็นปัจจุบันและมีคุณภาพ คุณประยงค์ได้นำเสนอให้ใช้ Key Success Factor สองกลุ่มคือ กลุ่มปัจจัยพื้นฐาน และ กลุ่มระบบงาน ในด้านปัจจัยพื้นฐานนั้นมี ด้านวิสัยทัศน์ ความมุ่งมั่น แนวทางการพัฒนา บุคลากร และ งบประมาณ ส่วนกลุ่มระบบงาน มี เรื่องของทีมงาน การพัฒนา และ การบริการ


     ผู้อภิปรายแต่ละคนมีเวลาพูดเพียงสิบนาทีในรอบแรก และรอบที่สองก็เป็นการสรุป ผมได้สรุปไว้สามประเด็นคือ

  1. ระบบ MIS เป็นระบบที่ใหญ่ แต่เราสามารถพัฒนาได้ทีละน้อย เริ่มจากส่วนที่เป็นข้อมูลที่สำคัญ แล้วค่อยขยายออกไปจนครบ
  2. การมีข้อมูลเป็นเรื่องที่สำคัญก็จริง แต่เรื่องที่สำคัญกว่าก็คือ การเห็นข้อมูลแล้วรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป ส่วนนี้เป็นเรื่องที่จะต้องศึกษาหาประสบการณ์ตลอดเวลา
  3. กระทรวงต้องจัดตั้งหน่วยงานสนับสนุนด้านไอซีที
    a. ให้คำแนะนำ

    b. ให้ความรู้ด้านไอซีที
    c. จัดหลักสูตรฝึกอบรม
    d. จัดทำซอฟต์แวร์และให้บริการซอฟต์แวร์
    e. ให้การเชื่อมโยงประสาน
    f. พัฒนาระบบแบบ Outsource

     ผมบันทึกรายละเอียดมาได้แค่นี้ แต่เชื่อว่าการสัมมนาคงจะมีเนื้อหาที่สรุปได้จากการปฏิบัติการอีกมาก ใครสนใจคงจะต้องติดต่อขอรายละเอียดและข้อมูลมาศึกษากันเอง