เรื่องน่าคิดของคนช่างคิด
เขย่าคิด - เรื่องเล่า
ผู้แต่ง ศาสตราจารย์ ดร. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
สำนักพิมพ์ บริษัทซัคเซส มีเดีย จำกัด
ทุกวันนี้ผมยังคงอ่านหนังสือมากเหมือนเดิม
แต่โดยที่ปริมาณหนังสือมีมากเหลือเกิน ผมจึงต้องจำกัดประเภทของหนังสือที่
อ่านลงมามากทีเดียว ไม่สามารถอ่านแบบเหวี่ยงแหได้เหมือนสมัยก่อน
แต่ไหนแต่ไรมา หนังสือประเภทหนึ่งที่ผมชอบก็คือเรื่องเล่าหรือพูดคุยแบบกันเอง
เรื่องแรกที่ผมติดใจมากก็คือ ข้อคิดของ
ม. ชูพินิจ (หรือคือคุณ มาลัย ชูพินิจ หรือ แม่อนงค์ หรือ น้อย อินทนนท์)
สุดที่รัก ของ อ. สุทธิลักษณ์ อำพันวงศ์ ผู้เพิ่งจะล่วงลับไปแล้ว
หน้า 5 สยามรัฐ ของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช และปัจจุบันนี้ก็คือ คุยกับประภาส
ในมติชน
หนังสือเรื่อง เขย่าคิด นี้ก็เป็นหนังสือในทำนองเดียวกัน
คือเป็นการปรารภถึงความเป็นไปของบ้านเมืองและผู้คน แต่หยิบยกเอา
เรื่องที่ใกล้ตัวผู้เขียนเองมาบรรยาย ทำให้หนังสือเล่มนี้อ่านได้แบบเบาสบาย
ไม่หนักสมอง ไม่ต้องปีนบันได และที่สำคัญทำให้เกิดแง่คิด
ให้ต้องขบคิดได้มากทีเดียว ถึงแม้ว่าเรื่องที่ต้องคิดนั้นจะเป็นปัญหาที่เราไม่สามารถจะแก้ได้
ในชีวิตคนเรานั้น ได้ผ่านการเรียนรู้ตลอดเวลา
ทุกวันนี้ผมยังเรียนรู้ทุกครั้งที่ได้เข้าร่วมประชุมในการประชุมต่าง
ๆ ได้เรียนรู้บุคลิกและ
การตัดสินใจของประธาน ได้เรียนรู้วิธีการพูดของผู้เข้าร่วมประชุม และได้เรียนรู้แนวทางแก้ปัญหาต่าง
ๆ
ผมยกเรื่องการประชุมขึ้นมาก่อนเพราะดูเหมือนว่าการปฏิบัติราชการและการทำงานในภาคเอกชนเวลานี้จะใช้ที่ประชุมเป็นเครื่องมือ
สำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูล การตัดสินใจ และการสั่งการ อย่างไรก็ตามการประชุมระดับสูงที่ผมไปเกี่ยวข้องด้วยนั้นมีหลายแห่งที่ไม่ม
ีประสิทธิภาพมากเท่าที่ควร ไม่ว่าจะเป็นการจัดวาระการประชุม หรือ การนำการประชุมของประธานในที่ประชุม
ในหนังสือของ
อาจารย์เกรียงศักดิ์เล่มนี้ มีหลายตอนที่เกี่ยวกับการประชุมอันเป็นเรื่องน่าคิดที่เราควรเริ่มพิจารณาอย่างจริงจัง
โดยเฉพาะการเริ่มประชุม
ให้ตรงเวลา
ผมจำได้ดีว่าในการประชุมคณาจารย์ของเอไอทีครั้งแรกของ
โปรเฟสเซอร์ อลัสแตร์ นอร์ท ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเข้ามาเป็นอธิการบดีใหม่
ๆ ท่านเข้ามานั่งในห้องประชุมก่อนเวลา 13.00 น. เล็กน้อย และตอนนั้นอาจารย์ก็ยังไม่ได้เข้ามานั่งในห้องประชุมกันครบ
ท่านนั่งคุยกับเลขานุการ
ของที่ประชุมต่อไปเรื่อย ๆ พอ 13.03 น. ท่านก็พูดออกทางไมโครโฟนว่า
วันนี้ถึงเวลาประชุมแล้ว แต่กรรมการมาไม่ครบองค์ประชุม
จึงของดประชุม
แค่นี้ก็เป็นเรื่องทีเดียวครับ...
เพราะการประชุมครั้งนั้นมีวาระสำคัญต้องพิจารณาหลายเรื่อง แต่เมื่อท่านอธิการให้งดประชุมไปแล้ว
อาจารย์ที่เข้าประชุมช้าก็หน้าจ๋อย และเรื่องที่จะพิจารณาก็จะต้องเลื่อนไปถึงเดือนหน้าเลยทีเดียว
หลังจากนั้นคงไม่ต้องบอกก็ได้ครับว่า
อาจารย์ไม่เคยมาช้าอีกเลย
นี่ผมยังไม่ได้บอกใช่ไหมครับว่า โปรเฟสเซอร์
นอร์ท คนนี้เป็นคนสก๊อตครับ
ผมได้เรียนรู้ทุกครั้งที่ได้พบกับผู้คน
เรื่องที่ผมเรียนรู้มีมากเหมือน ๆ กับที่อาจารย์เกรียงศักดิ์ได้เล่าไว้ในหนังสือเล่มนี้
ผมได้เรียนรู้วิธีคิด เรียนรู้เหตุการณ์ที่เกี่ยวกับผู้นั้น และเรียนรู้นิสัยใจคอเกี่ยวกับผู้นั้น
ปัญหาคือเราจะเก็บเรื่องที่เราเรียนรู้นี้ไว้ได้อย่างไร
ผมเองแม้จะคิดถึงเรื่องนี้บ่อยครั้ง
แต่ก็ยังไม่ได้จัดการอะไรลงไป เพราะดูเหมือนว่างานที่ผมไปรับปากใครต่อใครนั้นมีมากเกินกว่าที่ผม
จะจัดการได้เสียแล้ว และในขณะเดียวกันผมก็ยังรักที่จะอ่านและเรียนรู้เรื่องต่าง
ๆ จากหนังสืออีกมาก
อาจารย์เกรียงศักดิ์
เป็นผู้นำความคิดคนสำคัญของประเทศคนหนึ่งครับ ลองหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านเถอะครับ
อย่าเพิ่งตะลุยอ่า
นเสียทีเดียวควรจะค่อย ๆ อ่านไปวันละบทสองบท อ่านไปคิดไป แล้วลองนึกเอาเองว่าหากเป็นตัวเราที่ไปอยู่ในฐานะของอาจารย์เกรียงศักดิ์แล้ว
เราจะทำอย่างไร
|