Current Duties
Courses
ICT Ideas
ICT Education
ICT Management
ICT Principles
ICT Standards
ICT Vocabulary
CMM / CMMI
Case Studies
General Articles
Presentations
Book Reviews
Buddhism
Personal Efficiency
Writing Guides
Research Guides
VIP
Q & A
Contacts
Archive
Seminars
คำแนะนำด้านการเรียน
ข้อสอบสนุก

 

Home
IT Idea for Spiritization

เล่าให้คิด
วีรวุธ มาฆะศิรานนท์
สำนักพิมพ์ เอ็กซเปอร์เน็ต จำกัด
กันยายน 2543 137 หน้า ราคา 180 บาท

          ผมรู้จักคุณวีรวุธ มาฆะศิรานนท์ ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้มานานร่วมยี่สิบปี ในช่วงแรกสุดเราเป็นวิทยากรในการสัมมนาด้านคอมพิวเตอร์ให้กับบริษัท BIT ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่ก็คือ คุณบรรณวิทย์ บุญญรัตน์ อดีตผู้บริหารธนาคารไทยพาณิชย์ และ ITV ผู้ล่วงลับไปก่อนวัยอันสมควร ผมพบว่าคุณวีรวุธมีความสามารถในการบรรยายและการสื่อสารได้ดีมาก เป็นที่พอใจของผู้เข้ามารับการฝึกอบรมโดยถ้วนหน้า ต่อมาเมื่อคุณวีรวุธได้ลาออกมาประกอบธุรกิจส่วนตัวผมก็ยังได้มีโอกาสพบปะและติดตามความก้าวหน้า มาไม่กี่ปีนี้ผมยิ่งยินดีมากขึ้นที่คุณวีรวุธได้ผลิตหนังสือดีๆ ออกมาหลายเล่มโดยเฉพาะทางด้านการจัดการยุคใหม่ที่ผู้บริหารชาวไทยกำลังต้องการเป็นอย่างยิ่ง

          โลกในยุคที่เทคโนโลยีสารสนเทศได้นำความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงมาสู่กิจกรรมทุกอย่างนั้น ผู้บริหารที่จะสามารถนำกิจการไปสู่ความสำเร็จได้ จะต้องมีความรู้และความสามารถมากกว่าผู้บริหารประเภทเชื่อถือโชคลาง นับถือไสยศาสตร์ หรือทำงานตามยถากรรม ข้อพิสูจน์นั้นง่ายมาก ปัญหาและความยากลำบากในการพื้นฟูเศรษฐกิจที่ตกต่ำของไทยเป็นเครื่องแสดงอย่างดีว่า ผู้บริหารไทยทุกระดับยังอยู่ห่างไกลจากการที่จะทำให้ประเทศไทยรอดพ้นภัยอาณานิคมเศรษฐกิจไปได้

          คุณวีรวุธ เสนอแนวคิดว่าผู้นำยุคใหม่จะต้องมีความรู้ในเรื่องการบริหารเชิงระบบ ซึ่งประกอบด้วย

  • ระบบการพัฒนาวิสัยทัศน์
  • ระบบการบริหารเชิงกลยุทธ์
  • ระบบการวิเคราะห์ปัญหาและตัดสินใจ
  • ระบบการพัฒนาผู้นำ
  • ระบบการบริหารคุณภาพ
  • ระบบการบริหารทีมงาน
  • ระบบการบริหารโครงการธุรกิจ
  • ระบบการบริหารองค์กรเรียนรู้
  • ระบบการบริหารภูมิปัญญา
          แนวคิดของคุณวีรวุธนั้นสอดคล้องกับแนวคิดของผู้บริหารชั้นนำหลายคน แต่ผมก็ยังเห็นว่ายังขาดระบบคิดที่สำคัญไปอยู่สองเรื่องด้วยกัน เรื่องแรกก็คือระบบการจัดการความเปลี่ยนแปลง และ ระบบการจัดการเทคโนโลยี คุณวีรวุธอาจจะแย้งว่าระบบการจัดการไอทีนั้นเป็นแบบเดียวกับระบบการบริหารองค์กรเรียนรู้ เพราะไอทีเป็นเครื่องมือสำคัญของการเรียนรู้ นั่นเป็นเรื่องที่พอจะรับฟังได้ แต่ยังไม่พอเพียง เพราะผมเห็นว่าไอทีเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการบริหารจัดการทุกระดับ ตั้งแต่การปฏิบัติการระดับเสมียนพนักงานไปจนถึงการตัดสินใจของผู้บริหารระดับสูง เป็นระบบสำหรับเชื่อมโยงระหว่างบริษัทกับพันธมิตร และ ลูกค้า ดังนั้นในขณะที่ระบบบริหารเชิงกลยุทธ์อาจระบุแนวปฏิบัติว่าต้องใช้ไอที แต่หากผู้บริหารไม่รู้วิธีที่จะบริหารงานไอทีแล้ว ก็เป็นเรื่องยากที่จะทำให้กลยุทธ์นั้นเป็นจริงได้

          สำหรับในเรื่องของการจัดการความเปลี่ยนแปลงนั้น มาจากแนวคิดว่าผู้นำควรเป็น Change Agent ยกตัวอย่างเช่น ผู้นำอาจคิดนำระบบไอทีมาใช้ แต่ถ้าหากตนเองยังไม่ยอมเปลี่ยนนิสัยในการทำงานและไม่ได้เริ่มต้นไอทีมาใช้แล้ว ก็เท่ากับยังไม่ได้เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง หากผู้นำยังไม่เปลี่ยนแปลงแล้ว จะให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร

          คุณวีรวุธ ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับระบบการบริหารต่างๆ ตามที่กล่าวไว้ตั้งแต่ต้น เริ่มต้นด้วยเรื่องของการพัฒนาวิสัยทัศน์ การคิดเชิงกลยุทธ์ การบริหารงานโครงการ การบริหารเชิงคุณภาพ และ การพัฒนาผู้นำและทีมงาน

          รายละเอียดเหล่านี้อาจกล่าวได้ว่าเดินไปตามแนวคิดเกี่ยวกับผู้นำที่คุณวีรวุธได้ระบุไว้ตั้งแต่ต้น โดยแต่ละบทได้กล่าวถึงเนื้อหาที่ควรหยิบยกขึ้นมาพิจารณา เช่นในเรื่องวิสัยทัศน์นั้น คุณวีรวุธเริ่มตั้งแต่ความหมายของวิสัยทัศน์ไปจนถึง การพัฒนาวิสัยทัศน์ และ ประโยชน์ ความเลื่อนไหลของเนื้อหานั้นอันที่จริงก็เหมือนกับตำราทั่วไปนั่นเอง อีกทั้งรูปแบบและการกำหนดหัวข้อต่างๆ ก็มีลักษณะเหมือนตำรามากกว่าจะเป็นหนังสือเชิงบริหารที่ขายกันทั่วไป การเขียนในลักษณะนี้ทำให้หนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยสาระที่เข้มข้น หรือ Hard fact ซึ่งยากที่จะซึมซับได้

          ทุกวันนี้เราพูดกันถึงเรื่องวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ และคุณภาพ กันมากทีเดียว ผู้บริหารระดับสูงทุกคนได้รับคำสั่งมาให้กำหนดวิสัยทัศน์กันมากขึ้น แต่ที่น่าแปลกใจก็คือส่วนมากก็ยังไม่ค่อยเข้าใจคำๆ นี้ ด้วยเหตุนี้วิสัยทัศน์ที่ผู้บริหารในหลายหน่วยงานกำหนดขึ้นจึงไม่ได้เป็นวิสัยทัศน์ที่เหมาะสมนัก หากเป็นเสมือนคำขวัญมากกว่า ปัจจุบันนี้มีหลายหน่วยงานได้กำหนดวิสัยทัศน์ขึ้นแล้ว บังเอิญคุณวีรวุธไม่ได้หยิบยกเอาวิสัยทัศน์เหล่านี้มาแสดงหรือวิพากษ์วิจารณ์ เพราะหากได้นำวิสัยทัศน์ที่หน่วยงานต่างๆ มาวิจารณ์กันบ้าง จะทำให้หน่วยงานเข้าใจมากขึ้นว่าที่เขียนไปนั้นเหมาะสมหรือไม่

          อีกหลายเรื่องที่หยิบมาเขียนในหนังสือนี้ก็มีประโยชน์มาก ยกตัวอย่างเช่นเรื่องของการบริหารจัดการโครงการ และ การสร้างทีมงาน ผมคิดว่าการขาดความรู้ในเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งของประเทศไทย หากผู้บริหารมีความสามารถด้านนี้เพิ่มขึ้นอีกสักเล็กน้อย จะทำให้การบริหารจัดการงานต่างๆ ของหน่วยงานห้างร้านไทยก้าวหน้าไปด้วยดี ยิ่งหากได้คิดแบบโครงการมากขึ้นจะทำให้เจ้าข้องงานต้องระมัดระวังไม่โลภมาก และอาจจะไม่ทำให้ธนาคารทั้งหลายมี NPL มากนักก็เป็นได้

          ข้อที่น่าเสียดายอีกเรื่องหนึ่งก็คือ หนังสือเล่มนี้คุณวีรวุธยังเขียนไม่จบ เพราะยังไม่ได้กล่าวถึง ระบบการบริหารอื่นๆ ที่กล่าวถึงตั้งแต่แรก เช่น ระบบบริหารองค์กรความรู้ และ ระบบบริหารภูมิปัญญา ความจริงจะบอกว่าคุณวีรวุธเขียนไม่จบเสียทีเดียวก็ไม่ได้ เพราะคุณวีรวุธได้เขียนเรื่องเหล่านี้ไว้ในหนังสือเล่มอื่นอยู่แล้ว ว่างๆ ผมจะนำมาพิจารณ์ให้ได้รับทราบ

          ข้อดีของหนังสือเล่มนี้ก็คือ เรื่องสั้นๆ ที่คุณวีรวุธนำมา “เล่าให้คิด” เรื่องเหล่านี้เป็นตัวอย่างประกอบเนื้อหาในแต่ละส่วนได้อย่างดี จะอ่านเรื่องเฉพาะในกรอบ “เล่าให้คิด” ก็ได้ไม่เสียความ สไตล์การเขียนแบบนี้มีมานานแล้ว ตำราเล่มใหม่ๆ ทางด้าน MIS ก็เขียนแบบนี้เหมือนกัน

          กล่าวโดยสรุป ผมก็ขอแนะนำให้หาหนังสือเล่มนี้มาอ่าน จะมีข้อท้วงติงสักนิดก็คือ ราคาอาจจะแพงเกินไปสักหน่อยสำหรับนักศึกษา แต่อาจจะเหมาะสมสำหรับผู้บริหารทั้งหลาย

Back