ทุกวันนี้พวกเราใช้เครื่องพีซีในสำนักงานเป็นประจำทุกวัน หลายคนมีเครื่องพีซีตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานและบางคนมีเครื่องคอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊คสำหรับถือไปใช้ในที่ต่างๆ ด้วย แต่เป็นเรื่องน่าแปลกใจที่ไม่ค่อยได้มีการพูดกันว่าเราจะใช้เครื่องพีซีอย่างไรจึงจะได้ผลดีที่สุด ความจริงเมื่อคิดย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตของพวกเรา ก็จะพบว่าเราไม่ได้เรียนเรื่องที่น่าจะเรียนอีกหลายเรื่อง อย่างเช่น เราไม่ได้เรียนเรื่องเกี่ยวกับการอ่านหนังสือได้ผลดีที่สุด รวมทั้งไม่ได้เรียนเรื่องที่ง่ายที่สุดนั่นก็คือการลุกจากเตียงนอนอย่างไรไม่ให้กระดูกสันหลังของเราได้รับบาดเจ็บ

เครื่องพีซีไม่ใช่เครื่องมือธรรมดาอย่างมีดหรือกรรไกรซึ่งเราสามารถเรียนรู้วิธีใช้ได้เองโดยไม่ต้องมีใครสอน และรู้วิธีที่จะเก็บรักษาได้โดยอาศัยสามัญสำนึก พีซีเป็นเครื่องมือที่ซับซ้อนและในทางหนึ่งอาจจะกล่าวได้ว่าค่อนข้างบอบบางจนกระทั่งเสียหายได้ง่ายถ้าไม่คอยระวัง ในตอนนี้ผมจะกล่าวถึงวิธีหลีกเลี่ยงปัญหาในการใช้เครื่องพีซีก่อน ส่วนการใช้ให้ได้ผลดีมากขึ้นนั้นจะนำมาเล่าในตอนต่อ ๆ ไป

1. การใช้เครื่องพีซีนั้นเราควรจะดูแลโต๊ะทำงานของเราให้สะอาด รวมทั้งวางสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบ เราไม่ควรปล่อยให้สายไฟฟ้าและสายเคเบิลของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ห้อยระโยงระยาง อย่างสับสนเพราะอาจทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าในแบบที่ไม่คาดคิดได้ หากโต๊ะทำงานเป็นระเบียบและสะอาดดีแล้ว การทำงานของเราก็จะไม่สับสน
2. แม้ว่าทุกวันนี้เราจะใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ในการส่งแฟ้มข้อมูลกันมากขึ้น แต่ในบางครั้งเราก็อาจจะต้องใช้ฟลอปปีดิสก์ด้วยเหมือนกัน ขณะที่ใช้นั้นเราจะต้องวางแผ่นดิสก์เอาไว้ในที่ที่ควร อย่านำไปวางไว้ใกล้จอภาพ คลิปหนีบกระดาษ กรรไกรโลหะ อแด็ปเตอร์สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คหรือโทรศัพท์ รวมทั้งอย่าวางไว้ใกล้สายไฟฟ้ากระแสตรงที่ต่อออกมาจากอแด๊ปเตอร์ เพราะสิ่งเหล่านี้มีสนามแม่เหล็กที่อาจทำให้แผ่นฟลอปปี้ดิสก์ใช้งานไม่ได้
3. คอมพิวเตอร์นั้นทำงานได้ด้วยกระแสไฟฟ้า และกระแสไฟฟ้านั้นแพ้น้ำ ดังนั้นทางที่ดีก็อย่าได้นำแก้วน้ำ (ไม่ว่าจะเป็นน้ำหวานหรือน้ำเมา) เข้าไปตั้งไว้ใกล้ ๆ เครื่องหรือแป้นพิมพ์เป็นอันขาด เพราะหากวันใดเกิดโชคร้ายมือไปปัดแก้วน้ำหกลงไปในแผงแป้นพิมพ์หรือตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ก็คงจะยุ่งกันใหญ่
4. คนไทยนั้นชอบรับประทานอาหารขบเคี้ยว ของหวาน และผลไม้ เมื่อถึงเวลากลางวันเราจะพบว่าพนักงานจำนวนมากหิ้วถุงพลาสติกบรรจุของขบเคี้ยวเหล่านี้มาวางบนโต๊ะทำงาน แล้วก็เริ่มลำเลียงลงสู่กระเพาะอาหาร แต่ในบางครั้งเศษอาหารอาจจะตกค้างอยู่บนโต๊ะ รวมทั้งน้ำจิ้มที่มีน้ำตาลผสม ผลก็คือไม่ช้ามดและแมลงสาบก็เดินพาเหรดกันมาเยี่ยมเยือนโต๊ะทำงาน แล้วก็เดินสำรวจเข้าไปอาศัยในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราด้วย ดังนั้นถ้าหากไม่ต้องการให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเป็นสวนสัตว์เล็กสัตว์น้อยเหล่านี้ก็ไม่ควรที่จะนำสิ่งล่อใจเข้าไปไว้ใกล้ ๆ เครื่อง
5. สาวพนักงานบางคนพกของเหลวบางอย่างติดตัวอย่างเช่น ยาทาเล็บ และ น้ำหอม ไม่ว่าเครื่องสำอางเหล่านี้จะทำให้ท่านสวยมากขึ้นเพียงไหน แต่ถ้าหากมันหกหรือหยดใส่ในเครื่องละก็ ท่านจะมีปัญหาแน่ ดังนั้นหากจำเป็นต้องเป็นศิลปินเสริมสวยละก็ พยายามอยู่ห่างคอมพิวเตอร์หน่อยจะดีกว่าครับ
6. การใช้คอมพิวเตอร์เวลานี้ต้องระวังเรื่องความลับให้มาก เพราะมีคนจ้องจะอาศัยคอมพิวเตอร์ของเราเป็นประตูเปิดเข้าไปล้วงตับของหน่วยงานหรือบริษัทเป็นประจำ ดังนั้นหากท่านไม่ได้อยู่ที่โต๊ะทำงานเป็นระยะเวลานานกว่าสิบห้านาทีละก็ ขอแนะนำให้ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ก่อนจะดีกว่า ส่วนการเปิดเครื่องใช้ก็ต้องพยายามกำหนดรหัสผ่านที่ยาก ๆ หน่อย อย่าให้ใครรู้ เพราะถ้าหากเราเดินออกไปรับประทานอาหารกลางวันข้างนอกโดยเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้ อาจจะมีผู้แอบมานั่งที่โต๊ะทำงานของเราแล้วใช้เครื่องก๊อปปี้แฟ้มสำคัญ ๆ ของเราไปก็ได้
7. บริษัทบางแห่งเข้มงวดเลยไปถึงเรื่องเอกสารที่เป็นกระดาษด้วย ยกตัวอย่างเช่นบริษัทไอบีเอ็มนั้น หากเจ้าของโต๊ะไม่อยู่ก็จะต้องหยิบกระดาษบนโต๊ะใส่ลงในลิ้นชักแล้วปิดใส่กุญแจเสียให้เรียบร้อย หากพนักงานรักษาความปลอดภัยเดินมาเจอะกระดาษบนโต๊ะที่เจ้าของไม่ได้นั่งอยู่ เขาก็จะหยิบกระดาษนั้นไป และแน่นอนว่าจะต้องทำรายงานแจ้งให้หัวหน้าทราบ เรื่องนี้แม้จะไม่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์แต่ก็นำมาพูดได้ เพราะเราอาจจะเลินเล่อวางกระดาษพิมพ์ที่ออกมาจากคอมพิวเตอร์ไว้ระเกะระกะบนโต๊ะทำงาน เมื่อมีใครแอบหยิบไปก็จะเป็นปัญหาได้

วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะครับ ถือว่าเป็นบันไดขั้นต้นที่จะไต่ไปสู่ความมีประสิทธิผลสูงสุดต่อไปในอนาคตก็แล้วกัน