Current Duties
Courses
ICT Ideas
ICT Education
ICT Management
ICT Principles
ICT Standards
ICT Vocabulary
CMM / CMMI
Case Studies
General Articles
Presentations
Book Reviews
Buddhism
Personal Efficiency
Writing Guides
Research Guides
VIP
Q & A
Contacts
Archive

คำแนะนำด้านการเรียน
ข้อสอบสนุก

 

 

Home
IT Idea for Spiritization

คำทักทาย ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2550

สวัสดีครับ

        ผมหายหน้าหายตาไป เพราะย้ายเว็บไซต์ครับ ย้ายจริงๆ จากเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทที่เชียงใหม่ไปอยู่อีกที่หนึ่งครับ แต่ระหว่างการย้าย ทุกคนรวมทั้งผมด้วยก็มีงานล้นมือ จึงต้องเสียเวลาไปร่วมสามเดือนกว่าจะเข้าที่ ระหว่างที่หยุดหายไปไม่ได้มีโอกาสคุยกับมิตรสหายนั้น ก็มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายในประเทศ ผมคิดว่าความวุ่นวายเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาของโลกและชีวิตครับ อย่าไปตกอกตกใจ อย่าไปเคียดแค้น หรือขุ่นใจผู้ใดเลย เพราะลำพังเราจะบังคับตัวเองไม่ให้ป่วยไข้ก็ยังทำไม่ได้เลย ดังนั้นผมจึงอยากจะแนะนำในตอนที่ยังเป็นช่วงต้นปีนี้ว่า ขอให้พวกเรามองสิ่งต่างๆ และบุคคลที่เราเกี่ยวข้องด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยพรหมวิหาร อย่าให้ความวุ่นวายเหล่านี้มากระทบใจของเราให้เกิดความทุกข์เลยครับ

        ถ้าหากคนเราทุกวันนี้ปฏิบัติตามหัวข้อธรรมที่เรียกว่าพรหมวิหารธรรมแล้ว เหตุการณ์ทุกอย่างก็จะเป็นไปในทางดีขึ้น แต่ต้องปฏิบัติจริงด้วยกายวาจาและใจครับ ยกตัวอย่างเช่น การแผ่เมตตา หลายคนก็สวดคาถาแผ่เมตตาไปอย่างนั้นเอง แต่ใจไม่ได้เปี่ยมไปด้วยเมตตาธรรม และการพูดก็ไม่ได้เป็นไปในแบบมีเมตตา ดังนั้นจึงยังไม่อาจเรียกว่าการแผ่เมตตาเป็นการปฏิบัติเมตตาธรรมได้

        ขอยกตัวอย่างประกอบเพิ่มเติมครับ นักการเมืองที่ใจบุญสุนทาน ถวายเงินวัดครั้งละมากๆ และแผ่เมตตาเป็นประจำ แต่ยังเสนอโครงการที่จะหาเงินคอมมิสชันเข้ากระเป๋าตัวเอง ทั้งๆที่รู้ว่าโครงการนั้นไม่มีประโยชน์ อย่างนี้เรียกว่าไม่มีเมตตา คือไม่ได้คิดปรารถนาจะให้ประเทศชาติและคนไทยมีความสุข การเบียดบังใช้เงินหลวงนั้นก็เท่ากับไม่มีเมตตาคนที่ต้องเสียภาษีเงินได้ให้รัฐ, ทำให้รัฐไม่มีเงินที่จะช่วยเหลือคนยากจนและทำให้คนเหล่านั้นต้องตกอยู่ในความทุกข์ยากตลอดไป

        นอกจากการปฏิบัติเมตตาธรรมด้วยกายแล้ว การใช้วาจาอย่างมีเมตตาก็เป็นเรื่องสำคัญ พระพุทธองค์ทรงเห็นความสำคัญของการสื่อสารมานานแล้ว และทรงระบุว่าอกุศลกรรมบถทางวาจามีถึงสี่ข้อ คือมากกว่าอกุศลกรรมบถทางกายเสียอีก นั่นคือ การพูดปด, พูดส่อเสียด, พูดเพ้อเจ้อ, พูดหยาบ ผมเห็นว่าการพูดปดและการพูดส่อเสียดนั้นเป็นการพูดโดยไม่มีเมตตาธรรมอย่างแท้จริง เวลานี้การสื่อสารรวดเร็วและทันสมัยมาก อีกทั้งมีหลายช่องทางด้วย ดังนั้นเราต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้นในการสื่อสาร ยกตัวอย่างเช่น ผมไม่เห็นด้วยกับการที่ผู้สื่อข่าวให้สมญารัฐบาลและตัวรัฐมนตรีแต่ละคน เพราะเห็นว่าเป็นการส่อเสียด และไม่มีเมตตาธรรม ดูแล้วจึงเหมือนกับว่าผู้มีอาชีพสื่อสารต้องการเพียงแค่สร้างความสะใจเพื่อดึงดูดให้คนซื้อข่าวมากยิ่งกว่าการที่จะใช้ข่าวในการสร้างสามัคคีธรรม หรือสร้างความเป็นปึกแผ่นให้แก่ประเทศ

        ด้วยเหตุนี้เอง ผมจึงขอชักชวนให้ทุกท่านพยายามที่จะคิด พูด และ ทำ ภายในกรอบของพรหมวิหารธรรม พยายามคิดในแง่กุศล และพยายามพูดด้วยความเมตตา กรุณา มีความยินดีในลาภผลและยศศักดิ์ของคนอื่น และในหลายกรณีที่เราทำอะไรไม่ได้ ก็ให้ทำใจอุเบกขาเถอะครับ

         วันนี้ผมฉลองการนำเว็บกลับมาใหม่ด้วยการเน้นเรื่องธรรมะมากกว่าไอที และตั้งแต่นี้ไปผมคิดว่าจะพยายามนำเรื่องธรรมะมาเสนอเป็นแง่คิดให้แก่เพื่อนๆมากขึ้นครับ

 

 

ครรชิต มาลัยวงศ์

 

Back