Current Duties
Courses
ICT Ideas
ICT Education
ICT Management
ICT Principles
ICT Standards
ICT Vocabulary
CMM / CMMI
Case Studies
General Articles
Presentations
Book Reviews
Buddhism
Personal Efficiency
Writing Guides
Research Guides
VIP
Q & A
Contacts
Archive
Seminars
คำแนะนำด้านการเรียน
ข้อสอบสนุก

Home
IT Idea for Spiritization

การเอารัดเอาเปรียบ

ดร. ครรชิต มาลัยวงศ์
28 กุมภาพันธ์ 49

               คนไทยเป็นคนที่มีความโอบอ้อมอารี มีเมตตา และ เห็นอกเห็นใจผู้อื่นโดยเฉพาะผู้ถูกเอารัดเอาเปรียบ เมื่อไปพบคนที่ประสบปัญหาก็เข้าไปถามไถ่ และยินดีช่วยเหลือโดยไม่คิดค่าตอบแทนหรือหาประโยชน์ เร็วๆนี้ผมไปเดินเล่นที่ชานชาลาสถานีรถไฟสามเสนตามปกติ ขณะเดินผ่านหญิงวัยกลางคนสองคนที่กำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่กับม้านั่งบนชานชาลา หญิงคนหนึ่งเงยหน้ามองผมแล้วก็ร้องทักว่า "รับประทานด้วยกันไหมคะ" ผมไม่รู้จักหญิงทั้งสองคนนั้นมาก่อนและหากผมไม่รู้จักนิสัยใจคอคนไทยมาก่อนก็คงจะคิดว่าเป็นเรื่องแปลกที่ได้รับการเชื้อเชิญเช่นนั้น แต่นี่ก็คือคนไทยจริงๆ ที่พร้อมจะแสดงความโอบอ้อมอารีตลอดเวลา

               น่าเสียดายที่คนไทยแท้ที่มีนิสัยใจคอแบบนี้นับวันจะหมดไป กลายเป็นคนไทยพันธุ์ใหม่ที่พร้อมจะเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น เอาเปรียบพ่อแม่ญาติพี่น้อง เอาเปรียบเพื่อนฝูง เอาเปรียบประชาชน และเอาเปรียบประเทศชาติ

               ที่น่าเสียดายยิ่งกว่าก็คือ นิสัยใจคอแบบนี้นั่นแหละที่ทำให้ผมกล้าบอกว่าประเทศไทยเราเจริญมาถึงขีดสุดแล้ว ไม่มีทางที่จะเจริญไปกว่านี้

               ลองดูตัวอย่างไหมครับ

               ถ้าท่านขับรถไปบนถนนที่คับคั่งด้วยยวดยาน และต้องรออยู่ในคิวที่เป็นระเบียบถูกต้องตามกฎจราจร ท่านจะเคลื่อนรถไปได้ช้ามากเพราะผู้ขับขี่รถยนต์อีกหลายคนจะเอาเปรียบด้วยการขับเข้าไปในช่องทางสวนแล้วหักรถกลับมาตัดหน้ารถยนต์ของท่าน

               ถ้าท่านไปยืนรอรถประจำทาง หรือรอขึ้นลิฟต์ตามอาคารต่างๆ ในยามที่มีผู้คนคับคั่ง ท่านอาจจะต้องยืนรอนานมากเพราะมีคนคอยเบียดท่านขึ้นรถหรือเข้าลิฟต์ก่อน

                เอาละครับ...เรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยที่เราเห็นเจนตาจนชินเสียแล้ว ลองอ่านต่อครับ

               นายชอบ กับ นายชม เป็นเพื่อนนักศึกษารุ่นเดียวกัน อาจารย์บอกนักศึกษาทั้งชั้นว่าจะใช้หนังสืออ้างอิงอะไรในการออกข้อสอบ นายชอบรีบไปห้องสมุดแล้วยืมหนังสือเล่มนั้นเอาไว้ก่อน เมื่อถึงเวลาคืนก็ไม่นำมาคืน เพราะเกรงว่าเพื่อนคนอื่นจะรู้เนื้อหาในหนังสือนั้น ส่วนนายชมนั้นทำอะไรช้าหน่อย อาจารย์สอนเลิกแล้วก็มัวมะงุมมะงาหราเก็บของ พอดีอาจารย์เดินกลับเข้ามาใหม่ ส่งกระดาษให้ปึกหนึ่งบอกให้เอาไปแจกเพื่อนด้วยเพราะจะต้องใช้ในการสอบ นายชมก็เลยเก็บไว้แต่เพียงผู้เดียว แบบนี้ใครเอาเปรียบใครบ้างครับ

               เมื่อจบการศึกษาออกไปทำงานแล้ว สมมุติว่านายชอบกับนายชมไปทำงานที่เดียวกัน เจ้านายเรียกนายชอบไปสั่งให้ทำงานเรื่องหนึ่งและบอกว่าให้ตามนายชมมาช่วยทำด้วย นายชอบก็ไปบอกให้นายชมทำแต่เพียงผู้เดียว เสร็จแล้วก็นำไปส่งเจ้านายโดยบอกว่าเป็นผลงานของตนเพียงคนเดียว แบบนี้เป็นการเอาเปรียบไหมครับ

               นายชมเข้าหน้าเจ้านายไม่เก่ง เพราะนายชอบแย่งความดีความชอบไปหมด นายชมเซ็งก็เลยแกล้งอู้งานบ้าง เปิดคอมพิวเตอร์เล่นเกมบ้าง เข้าอินเทอร์เน็ตอ่านเว็บบ้าง ดาวน์โหลดโปรแกรมมาลองใช้สนุกๆ บ้าง แบบนี้นายชมเอาเปรียบหรือเปล่าครับ แล้วเอาเปรียบใคร นายชอบหรือเจ้านายครับ

               การเอาเปรียบแบบนี้เริ่มหนักข้อมากขึ้นหรือยังครับ ถ้ายังคิดว่าไม่เป็นการเอาเปรียบที่หนักข้อมากนัก ก็ลองดูตัวอย่างต่อไปนี้

               นายขอบเจริญก้าวหน้าตามลำดับจากความสามารถในการเอาเปรียบเพื่อนฝูง และในที่สุดก็ได้ก้าวมาถึงตำแหน่งที่สามารถอนุมัติเรื่องสำคัญๆ ได้ นายชอบอยู่ในตำแหน่งที่รู้ว่ารัฐบาลกำลังมีโครงการจะตัดถนน สร้างเขื่อน หรือพัฒนาท้องถิ่นใดๆ นายชอบก็รีบไปกว้านซื้อที่ดินเหล่านั้นมาไว้เพื่อขายต่อเมื่อที่ดินราคาขึ้นสูงแล้ว

               นายชอบมีภรรยาชื่อนางจันทร์ นายชอบวิ่งเต้นให้นางจันทร์ได้เป็นผู้รับสัมปทานขายอาหารในสถานที่ราชการแห่งหนึ่ง แล้วนางจันทร์ก็จัดการให้ร้านอาหารเข้าไปขายอาหารโดยจ่ายค่าเช่าพื้นที่ในราคาที่แพงกว่าที่นางจันทร์ได้รับสัมปทานมาหลายเท่า

               นางจันทร์เองก็มีร้านอาหารระดับหรูอยู่แล้ว อาหารที่ขายในภัตตาคารแห่งนี้มีชื่อแปลกๆ ก็จริง แต่ความจริงก็เป็นอาหารพื้นๆ แต่ราคาอาหารไม่ได้อยู่ระดับพื้นเลย คือแพงกว่าร้านอาหารชั้นดีปกติสองสามเท่า ในขณะที่ลูกจ้างก็ได้ค่าตอบแทนขั้นต่ำเท่านั้น

               ความจริงแล้ว การเอารัดเอาเปรียบของนางจันทร์เป็นเรื่องธรรมดาของพ่อค้าแม่ค้า เพราะอันที่จริงยังมีผู้ประกอบธุรกิจที่เอารัดเอาเปรียบคนอื่นอีกมากโดยที่เราคิดไม่ถึง เช่น

               นักจัดรายการข่าวที่เอาข่าวหนังสือพิมพ์มาอ่านออกทางโทรทัศน์ให้คนทั้งประเทศฟัง พร้อมกับแสดงความคิดเห็นที่ไม่ค่อยเข้าเท่าเท่าใด หรือเอาคนที่แสร้งทำตนว่าถูกรัฐรังแกเสียเหลือเกินมาทำข่าวเพื่อสร้างตนเองให้ประชาชนคิดว่าเป็นพ่อพระหรือนักบุญ

               รายการต่างๆ ที่ให้ประชาชนส่ง SMS ไปเสนอความเห็นบ๊องๆ ผิดๆ ถูกๆ เพื่อออกทางหน้าจอโทรทัศน์ให้รกสายตา

               บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์ ซึ่งเคยแจกสมุดโทรศัพท์มาหลายสิบปี แต่ต่อมาก็เปลี่ยนมาแจกเฉพาะสมุดโทรศัพท์ของเขตใกล้บ้าน ทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์ต้องพึ่งพาบริการ 1133 โดยไม่ต้องเสียค่าบริการ แต่มาถึงขณะนี้การใช้บริการต้องเสียเงินคิดเป็นนาทีเสียแล้ว เคยคิดหรือไม่ครับว่าพวกเราถูกเอาเปรียบมากแค่ไหน

               โรงพยาบาลเอกชนที่คิดค่ายาแพงกว่าราคาตลาด แถมยังพยายามยัดเยียดยาที่ราคาค่างวดสูงกว่าที่ควรมากมาให้เราใช้โดยอ้างว่าประสิทธิภาพสูงกว่ายาที่ราคาถูกกว่า

               นักการเมืองที่ขอรถตำรวจมานำหน้ารถยนต์ของตนเพื่อจะได้ไปเร็วกว่าประชาชน ทั้งๆ ที่ตอนนั้นต้องการไปเที่ยวบาร์หรือไนท์คลับ

               นักการเมืองที่ขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวต่างประเทศโดยใช้เงินงบประมาณที่มาจากการเสียภาษีอากรของประชาชนโดยไม่มีเหตุจำเป็น แถมยังใช้จ่ายค่าห้องพักแพงมากกว่าที่ควรอีกด้วย

               เรื่องการเอารัดเอาเปรียบทำนองนี้ในสังคมไทยมีมากครับ ผมคิดว่าท่านผู้อ่านคงจะนึกขึ้นมาได้อีกมากทีเดียว และยิ่งนึกได้มากเท่าใดก็เป็นการย้ำเรื่องที่ผมบอกไว้ตั้งแต่แรกว่า ไทยเราก็คงเจริญได้แค่นี้แหละ

               ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าจะแก้ไขปัญหาการชอบเอารัดเอาเปรียบได้อย่างไร เพราะดูเหมือนจะเป็นนิสัยที่ซึมลึกเข้าไปสู่สายเลือดของคนไทยทุกเพศ ทุกวัย ในเวลานี้เสียแล้ว ถ้าว่างก็ลองช่วยกันคิดแก้ปัญหาเรื่องนี้กันหน่อยนะครับ สังคมไทยจะได้มีความยุติธรรมมากขึ้น


Home | Back