นักพัฒนาซอฟต์แวร์ระดับก้าวหน้าย่อมรู้จัก SW-CMM ดีว่า เป็นต้นแบบสำหรับใช้ในการปรับปรุงกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้มีวุฒิภาวะความสามารถดีขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงระดับสูงสุดซึ่งเป็นระดับที่มีการปรับปรุงกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ดีขึ้นตลอดเวลา ต่อมาสถาบันวิศวกรรมซอฟต์แวร์ (Software Engineering Institute) ผู้เป็นต้นคิดได้ปรับปรุงต้นแบบนี้ใหม่กลายเป็น CMMI (Capability Maturity Model Integration) ซึ่งสามารถนำไปใช้ทั้งในการพัฒนาซอฟต์แวร์ พัฒนาระบบที่ซับซ้อน และ พัฒนากระบวนการทำงานได้ด้วย การเปลี่ยนต้นแบบนี้ได้เน้นแนวคิดใหม่ในการใช้ CMMI เพื่อสร้างองค์การให้ก้าวหน้าไปสู่ความเป็นองค์การที่มีวุฒิภาวะสูง (High Maturity Organization)่
ตามหลักการของ CMMI แล้ว องค์การที่มีวุฒิภาวะสูงจะต้องมีกระบวนการทำงานที่เป็นมาตรฐาน และ การดำเนินงานตามกระบวนการทุกกระบวนการยังต้องมีการปฏิบัติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อีกสิบห้าประการดังนี้
- องค์การต้องกำหนดมาตรฐานการดำเนินงานตามกระบวนการต่าง ๆ ให้ครบถ้วน กำหนดรายละเอียดของขั้นตอนในกระบวนการ กำหนดส่วนที่เป็นอินพุต ขั้นตอนการตัดสินใจ กระแสการทำงาน ผลลัพธ์ของการทำงาน และ ตัววัดที่เกี่ยวกับการดำเนินการ รวมทั้งแนวทางการวิเคราะห์ตัววัดที่เก็บได้
- องค์การต้องกำหนดนโยบายในการทำงานตามกระบวนงานนั้นอย่างชัดเจน คือกำหนดทั้งแนวทางปฏิบัติ มาตรฐาน และ วิธีการควบคุม ในแนวคิดของ CMMI นั้นถือว่าเรื่องนี้สำคัญมาก เพราะเป็นการปฏิบัติที่เชื่อมโยงกระบวนการเข้ากับผู้บริหารที่รับผิดชอบต่อผลการดำเนินงานของกระบวนการนั้น ถ้าหากไม่มีนโยบายที่ชัดเจน หากทำไปก็อาจจะไม่ได้รับการสนับสนุน และผลการทำงานก็อาจจะไม่เป็นไปตามที่ต้องการ
- การทำงานตามกระบวนการทั้งหลายต้องมีการวางแผนเสมอ จะลงมือทำโดยปราศจากแผนไม่ได้ เรื่องแผนงานนั้นมีคนต่อต้านกันมากโดยมักจะอ้างว่าแผนงานไม่มีประโยชน์ เพราะมีแล้วก็ใช้ไม่ได้ แต่ความจริงแล้วส่วนใหญ่ที่ใช้ไม่ได้เพราะวางแผนกันไม่เป็น อันที่จริงแล้วกระบวนการทำงานที่สำคัญเรื่องหนึ่งขององค์การทุกแห่งก็คือกระบวนการวางแผน และเมื่อจะเริ่มทำตามกระบวนการวางแผน ก็ต้องวางแผนกระบวนการวางแผนเสียก่อน และถ้าหากมองดูต่อไปในข้อที่ 5 จะพบว่า ถ้ายังวางแผนไม่เป็นก็ต้องไปเข้ารับการฝึกอบรมให้ทำเป็นเสียก่อน
- ต้องมีการจัดสรรทรัพยากรให้พอเพียง เป็นเรื่องที่ทราบดีอยู่แล้วว่าการดำเนินงานตาม กระบวนการต่าง ๆ จะบรรลุผลได้ก็ต่อเมื่อมีทรัพยากรพร้อม แต่เป็นเรื่องแปลกที่ผู้บริหารบางคนก็ไม่ยอมรับเรื่องนี้ คือไม่จัดสรรทรัพยากรมาให้พอเพียง ทรัพยากรในที่นี้หมายความรวมทั้งคน เงิน เครื่องมือ เครื่องใช้ สถานที่ปฏิบัติงาน และ เวลาสำหรับทำงานนั้น ดังนั้นอย่าได้มองข้ามเรื่องนี้ หากผู้บริหารไม่สนใจก็แสดงว่าองค์การยังไม่มีวุฒิภาวะสูงพอ
- ต้องมอบหมายหน้าที่ให้แก่ผู้ปฏิบัติงานอย่างชัดเจน การปฏิบัติงานใด ๆ จำเป็นต้องมีผู้รับผิดชอบ และเป็นหน้าที่ของผู้บริหารที่จะต้องแต่งตั้งและมอบหมายหน้าที่นั้นอย่างชัดเจน หากไม่ทำเช่นนี้ก็อาจจะไม่มีใครสนใจดูแลให้การดำเนินงานสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
- ต้องฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงานให้ดำเนินงานตามกระบวนการนั้นได้ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญที่องค์การหลายแห่งมักจะมองข้าม และหากลองพิจารณาดูความเป็นไปของหน่วยงานทั้งราชการและเอกชนหลายแห่งจะพบว่านี่เป็นจุดอ่อนที่สำคัญของไทย เริ่มตั้งแต่ผู้บริหารเองหลายคนก็ไม่มีความสามารถในการบริหารงานของหน่วยงาน เพราะได้ดีมาทางการประจบประแจงนักการเมือง ปัจจุบันนี้ยังโชคดีที่มีการตั้งสถาบันและหลักสูตรฝึกอบรมสำหรับนักบริหารหลายแห่งและหลายเรื่องด้วยกัน ทำให้ผู้บริหารหน่วยงานเริ่มคิดเป็นบ้าง แต่ถ้าจะยังขาดก็คือความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติงานในองค์การเองซึ่งเรื่องนี้ขอเรียกว่าเป็น Subject Domain นอกจากผู้บริหารแล้ว พนักงานที่ปฏิบัติงานในหลายแห่งก็ไม่ได้รับการฝึกอบรมอย่างเหมาะสมเช่นกัน ดังนั้นองค์การที่มีวุฒิภาวะต้องเน้นการฝึกอบรมให้ผู้ปฏิบัติงานทำงานได้จริง
- ต้องจัดเก็บรวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับแผนงาน การดำเนินงาน และ ผลงานเอาไว้เพื่อการควบคุมให้ เรื่องนี้สำคัญมาก องค์การต้องกำหนดให้มีการจัดเก็บเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการดำเนินงานเอาไว้อย่างครบถ้วน วัตถุประสงค์ก็เพื่อให้เป็นประวัติสำหรับติดตามการดำเนินงาน และควบคุมให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างถูกต้อง
- ต้องพิจารณาว่ากระบวนการนั้นเกี่ยวข้องกับผู้ใดบ้าง และต้องให้ผู้เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานเสมอ กระบวนการทำงานต่าง ๆ นั้นอาจต้องเกี่ยวข้องทั้งกับผู้ที่อยู่ในองค์การและหรือนอกองค์การ และถ้าหากผู้ที่ต้องเกี่ยวข้องด้วยนั้นไม่ได้ปฏิบัติงานตามหน้าที่และความรับผิดชอบตามที่กำหนดไว้ ผลงานก็อาจจะไม่สำเร็จดีเท่าที่ควร ดังนั้นในการดำเนินงานจึงต้องคอยพิจารณาว่าจะไปเกี่ยวข้องกับใครบ้าง และต้องดูแลให้ผู้นั้นเข้ามาร่วมงานตามความรับผิดชอบ
- ต้องควบคุมการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนงาน การควบคุมงานนั้นเป็นเรื่องจำเป็น และผู้ที่ทำหน้าที่บริหารการดำเนินงานกระบวนการต้องดูแลและติดตามว่าการดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและสอดคล้องกับแผนงานหรือไม่ ถ้าไม่เป็นไปตามแผนก็ต้องแก้ไข
- ต้องตรวจสอบว่าการดำเนินงานนั้นเป็นไปตามข้อกำหนดและบรรลุเป้าหมายครบถ้วนหรือไม่ ข้อปฏิบัติส่วนนี้สืบเนื่องมาจากข้อ 8 ที่กล่าวไปแล้ว กล่าวคือต้องดูว่าการดำเนินงานนั้นเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ตามมาตรฐานการดำเนินงานของกระบวนการนั้นหรือไม่ และ จะบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้หรือไม่
ฉบับนี้ผมไม่สามารถให้รายละเอียดได้ครบทั้ง 15 ข้อ ผมจะนำเอาห้าข้อที่เหลือมาอธิบายในฉบับต่อไปเพื่อให้ท่านที่สนใจนำไปใช้ในการปรับปรุงองค์การของท่านให้ก้าวไปสู่องค์การที่มีวุฒิภาวะสูงสุดต่อไปครับ