Current Duties
Courses
ICT Ideas
ICT Education
ICT Management
ICT Principles
ICT Standards
ICT Vocabulary
CMM / CMMI
Case Studies
General Articles
Presentations
Book Reviews
Buddhism
Personal Efficiency
Writing Guides
Research Guides
VIP
Q & A
Contacts
Archive

คำแนะนำด้านการเรียน
ข้อสอบสนุก

       

 

Home
IT Idea for Spiritization

คำทักทาย ณ วันที่ 4 กรกฏาคม 2549

สวัสดีครับ

        ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้ผมได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ไปบรรยายเรื่องการจัดการไอทีในหลักสูตร MBA ผมก็เลยถือโอกาสพาภริยาไปเที่ยวชมขอนแก่นและเมืองใกล้ๆ กันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์

        ขอนแก่นเวลานี้ก้าวหน้าไปมากครับ ผมเคยมาขอนแก่นครั้งแรกเมื่อกว่าสี่สิบปีมาแล้ว โดยตอนนั้นยังเป็นนิสิตวิศวะอยู่และมหาวิทยาลัยขอนแก่นก็เปิดสอนในช่วงที่ผมจบการศึกษาพอดี จากนั้นผมก็มีโอกาสมาขอนแก่นอีกหลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่มาระยะสั้น ถ้าไม่เป็นแบบมาเช้าเย็นกลับ ก็ค้างเพียงคืนเดียวแล้วก็กลับ ดังนั้นจึงไม่ได้มีโอกาสเที่ยวชมอะไรในขอนแก่นมากนัก คราวนี้ก็เลยตั้งใจว่าจะต้องเที่ยวชมสถานที่น่าสนใจต่าง ๆ ให้จุใจ

        การท่องเที่ยวในเมืองไทยนั้นมีได้หลายแบบ แบบแรกก็คือเที่ยวชมธรรมชาติและที่เกี่ยวกับธรรมชาติ เช่นไปดูนก ดูป่าไม้ชายเลน ดูความงามของเกาะแก่ง ภูเขา น้ำตก ฯลฯ แบบที่สองก็คือการไปพักผ่อน หรือ การไปตากอากาศ ซึ่งก็อาจจะเป็นการท่องเที่ยวแบบสืบเนื่องกับอย่างแรก คือไปเที่ยวพักผ่อนชายทะเล หรือน้ำตก แบบที่สามก็คือไปเที่ยวชมวิถีชีวิตของผู้คน ไปเดินตามตลาดสดดูว่าเขาอยู่กันอย่างไร กินอะไร ใช้ชีวิตกันอย่างไร การเที่ยวแบบนี้ก็อาจจะเป็นแบบโฮมสเตย์ คืออยู่กับชาวบ้านด้วย แบบที่สี่ก็คือไปเที่ยวหาของกิน คือไปดูว่าที่ไหนมีอาหารอะไรอร่อยบ้าง ของแปลก ๆ บางทีก็มีเฉพาะถิ่นเท่านั้น ดังนั้นผู้ที่ชอบเที่ยวลักษณะนี้จะมีข้อมูลพร้อมว่าจะต้องไปกินอะไรที่ไหน แบบที่ห้าเป็นการท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ คือไปดูว่าสถานที่ต่าง ๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มีลักษณะอย่างไร การท่องเที่ยวเช่นนี้ยากครับ ต้องอาศัยมัคคุเทศก์ที่เป็นนักประวัติศาสตร์และมีความรู้เกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ เป็นผู้อธิบาย จะให้มัคคุเทศก์ของบริษัทท่องเที่ยวทั่วไปบรรยายคงจะไม่ได้ มีหลายคราวที่ผมไปเที่ยวกับบริษัทท่องเที่ยวแล้วทนฟังคำอธิบายผิด ๆ ไม่ได้ต้องรีบขัดคอ เพราะไม่อยากปล่อยให้ยัดเยียดข้อมูลผิด ๆ ให้นักท่องเที่ยวรับทราบ แบบที่หกก็คือการท่องเที่ยวทางศาสนา อย่างเช่นการไปไหว้พระ 9 วัด หรือการไปนมัสการพระพุทธรูป, พระเจดีย์, พระธาตุ หรือ พระเกจิอาจารย์ และบางครั้งก็มีการปฏิบัติธรรมควบคู่ไปด้วยสุดแท้แต่การจัด แบบที่เจ็ดก็คือการท่องเที่ยวทางศิลปกรรม ได้แก่การไปเที่ยวชมศิลปกรรมที่สวยงามในที่ต่าง ๆ แบบที่แปดก็คือการท่องเที่ยวเพื่อหาความเพลิดเพลินให้แก่ตนเอง เช่น การไปงานมิสสิกเฟสติวัลที่พัทยา ไปฟังวงดนตรีแจ๊สที่หัวหิน หรือ การไปหาความเพลิดเพลินทางเพศ (ไม่อยากเรียกว่าเซ็กส์ทัวร์ แต่ก็แบบนั้นแหละ) และ แบบที่เก้าก็คือการท่องเที่ยวแบบผสมผสานการท่องเที่ยวแบบต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นตั้งแต่สองแบบขึ้นไป

        ที่ผมแบ่งการท่องเที่ยวออกมาเป็นแบบต่าง ๆ นั้นก็เพื่อให้เห็นชัดว่าเราไปเที่ยวกันทำไม จริงอยู่การท่องเที่ยวอาจจะมีวัตถุประสงค์อื่นเป็นหลัก แล้วการเที่ยวเป็นผลพลอยได้ด้วย เช่น คนไทยเชื้อสายจีนไปไหว้สุสานบรรพบุรุษในเทศกาลเช็งเม้ง แล้วก็เลยไปเที่ยวกันต่อ หรือคณะนักแสวงบุญอาจจะไปทอดกฐินแล้วก็เลยไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆ อย่างไรก็ตามอย่าจริงจังกับการแบ่งประเภทการท่องเที่ยวของผมมากนักครับ ผมเพียงแต่ชี้ให้เห็นว่า ในการพิจารณาเรื่องอะไรก็ตาม เราควรสามารถจำแนกหรือจัดกลุ่มเรื่องนั้นได้ หากทดลองพิจารณาในทำนองนี้เสมอ ๆ จะทำให้ความคิดเฉียบคมขึ้นครับ

        ความจริงแล้ว ผมเคยเรียนเป็นมัคคุเทศก์ด้วย หากจำไม่ผิดก็คงเป็นช่วงราว พ.ศ. 2510 ผู้จัดก็คือคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ และพูดแล้วจะว่าคุย ผมสอบได้ที่หนึ่งของรุ่นเสียด้วย การสอบนั้นมีทั้งสอบแบบข้อเขียน และสอบในสถานที่จริง คือ วัดพระเชตุพน อาจารย์ที่สอบผมก็คือ ศาสตราจารย์ไพฑูรย์ พงศะบุตร ซึ่งต่อมาท่านได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ ให้เป็นราชบัณฑิตมาก่อนผม

        เรื่องที่ศึกษาในหลักสูตรมัคคุเทศก์นั้นมีกว้างขวางมาก ทั้งประวัติศาสตร์ ศิลปะ ประเพณี โบราณคดี วัฒนธรรม อาหารการกิน การแต่งกาย ฯลฯ ถึงแม้จะเป็นเรื่องกว้าง ๆ แต่ก็ช่วยเปิดหูเปิดตา และเป็นพื้นฐานให้ผมศึกษาหาความรู้ต่อมาด้วยตัวเองอีกมาก ด้วยเหตุนี้ หากใครคิดว่าผมเขียนอย่างมั่ว ๆ เพราะรู้แต่เพียงเรื่องไอทีก็คงต้องคิดใหม่แล้วละครับ

        การไปอีสานของผมคราวนี้ยังมีวัตถุประสงค์ลึก ๆ อีกอย่างหนึ่ง นั่นคือไปดูสภาพความเป็นอยู่ของคนอีสาน เพราะผมได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติราชการซึ่งเป็นงานที่ กพร. ทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการ และผมได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานอนุกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติราชการของกลุ่มจังหวัดภาคอีสาน หากผมไม่รู้ความเป็นไปในจังหวัดภาคอีสานเลยก็ดูกระไรอยู่ การตรวจสอบนี้ไม่ใช่การตรวจว่าการปฏิบัติงานถูกต้องหรือไม่ แต่ตรวจว่าได้ทำงานบรรลุผลตามที่คาดหวังหรือไม่ครับ ผมไม่เคยนำเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้ เพราะในช่วงที่ผ่านมา กพร. ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด แต่ขณะนี้ กพร. ได้จัดประชุมเปิดเผยเรื่องนี้เมื่อตอนต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาแล้ว ดังนั้น ผมจึงนำมาพูดได้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และมีความสำคัญมาก ทำให้ผมค่อนข้างหนักใจว่าจะทำได้ดีแค่ไหน เอาไว้เมื่อมีอะไรคืบหน้าผมจะนำมาเล่าให้ฟังต่อก็แล้วกันครับ

        สำหรับในเดือนนี้ ผมขอนำเอาเรื่องที่ผมได้เขียนไปบรรยายที่เชียงใหม่ในการประชุมบัณฑิตปริญญาโทรุ่นต่าง ๆ ของหลักสูตรการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ ของ มช. มาให้อ่าน

        ปัจจุบันนี้ผมอายุมากแล้ว ดังนั้นการไปท่องเที่ยวของผมก็คือการไปเที่ยวลักษณะที่ 6 และ 7 ข้างต้นเป็นส่วนใหญ่ เมื่อเป็นเช่นนี้เป้าหมายของการเดินทางของผมจึงอยู่ที่บรรดาวัดต่าง ๆ ที่รู้จักกันดีว่ามีศิลปกรรมที่สวยงามหรือน่าสนใจ ผมเก็บภาพมามากเหมือนกัน แต่ยังไม่มีเวลาที่จะเขียนเล่าเรื่องที่ได้เห็นในที่นี้ ขอติดไว้ก่อนครับ แต่ก็อย่าหวังมากนักว่าผมจะมีเวลาเขียนให้อ่านได้ในอนาคตอันใกล้

 

ครรชิต มาลัยวงศ์

 

Back