สวัสดีครับ
ช่วงนี้เป็นเวลาที่ประเทศต่างๆ
ทั่วโลกต้องประสบกับเรื่องเศร้ามากมายหลายเรื่อง น้ำท่วมใหญ่ในจีน
อีโบลาระบาดในอาฟริกา เฮอริเคนในอเมริกา การก่อการร้ายในลอนดอนและภาคใต้ของไทย
และข่าวคราวเกี่ยวกับการทุจริตคิดมิชอบมากมายหลายเรื่องในไทย
ฯลฯ
เหตุการณ์เหล่านี้บางเรื่องอาจทำให้หงุดหงิดและโกรธเคืองผู้ก่อเหตุ
อย่างเช่นกรณีของการก่อการร้ายและการทุจริต พวกเราบางคนอาจจะสนทนากันอย่างโกรธขึ้งที่ผู้ก่อการร้ายลงมือทำการอย่างไม่ปราณี
ทำให้ผู้บริสุทธิ์จำนวนมากต้องตาย เราอาจขุ่นแค้นผู้คดโกงในโครงการต่างๆ
นั่นเป็นธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้วเมื่อประสบกับเหตุการณ์ที่ไม่น่าปรารถนาหรือที่รู้สึกว่าไม่ยุติธรรม
อย่างไรก็ตามความคิดในทำนองนี้อาจนำไปสู่วิบากกรรมได้ เริ่มต้นที่สุดคือจิตของเราเองก็เศร้าหมอง
คุมแค้น พยาบาท และความรู้สึกเหล่านี้ก็ตกตะกอนอยู่ในก้นบึ้งของจิตของเรา
ทำให้พร้อมที่จะระเบิดออกมาเมื่อมีเหตุการณ์ใหม่มาสะกิด และในกรณีที่ร้ายแรงที่สุดก็คือการพยายามตอบโต้กับผู้ที่เราเห็นว่าได้ก่อให้เกิดความชั่วร้ายหรือความอยุติธรรมขึ้น
แต่เราไม่ใช่ผู้ที่จะตัดสินเกี่ยวกับความซื่อสัตย์หรือความยุติธรรม
กฏของธรรมชาติต่างหากที่จะทำหน้าที่นี้ หากเราเป็นผู้ตัดสินเสียเองแล้วก็เท่ากับเราเป็นผู้ที่ลงมือทำให้เกิดความไม่ยุติธรรมขึ้นเอง
และทำให้เกิดวงจรของการแก้แค้นและวิบากกรรมทับซ้อนไม่มีที่สิ้นสุด
ด้วยเหตุนี้เอง
ผมจึงอยากเสนอให้เราทำตนเป็นผู้ดู หรือผู้สังเกตโดยไม่พยายามทำให้เกิดอารมณ์ใดๆที่จะทำให้จิตเศร้าหมอง
เราควรเพียงแต่ดูและรับทราบว่านักการเมืองคนนั้นประพฤติตนไม่เหมาะสมไม่น่าคบหาสมาคม
และสังเกตต่อไปว่าเขาจะได้รับผลจากวิบากกรรมอย่างไร แน่นอนผลอาจจะไม่เกิดในช่วงเวลาที่เราสังเกต
แต่กฏแห่งกรรมและกฏแห่งธรรมชาตินั่นไม่ได้กำหนดเวลาไว้ตายตัว
ถึงอย่างไรผู้ประกอบกรรมชั่วต่างๆก็จะต้องแสดงผลอย่างแน่นอน
หน้าที่ของพวกเราก็คือดูเท่านั้น นอกจากนั้นเราข้าใจด้วยว่า
โดยธรรมชาติแล้ว นักการเมืองจำนวนมากก็เป็นอย่างนี้ สิ่งที่พวกเขาต้องการทำก็คือการกระโดดเข้าสู่ตำแหน่งการเมืองเพื่อใช้อำนาจในการหาผลประโยชน์ให้ตนและพวกพ้อง
นักการเมืองที่หลุดวงโคจรไปเพราะไม่ได้เป็นรัฐบาลนั้น เมื่อได้กลับมาเป็นรัฐบาลใหม่ก็ประพฤติอย่างนี้อีก
เราอาจเรียกร้องให้มีมาตรการตรวจสอบและควบคุม เราอาจเรียกร้องให้ลงโทษผู้กระทำผิด
แต่เราต้องทำโดยพยายามไม่ให้จิตเราเศร้าหมองด้วยการบันดาลโทสะ
คุมแค้น และสะสมความพยาบาท
สังคมไทยก็เหมือนสายน้ำ
ไม่มีวันที่จะไหลขึ้นที่สูงได้เอง มีแต่ไหลลงสู่ที่ต่ำตลอดเวลา
เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้ว เราก็ควรทำใจให้ถูกต้อง
สำหรับเรื่องใหม่ๆที่นำมาเสนอในคราวนี้
เป็นเรื่องเกี่ยวกับคำแนะนำในการทำโครงการสำหรับนักศึกษาปริญญาโททางด้านการจัดการไอที
เรื่องที่เขียนนั้นผมเน้นสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยวิลัยลักษณ์ก็จริงอยู่
แต่นักศึกษาและผู้สนใจจะอ่านด้วยก็ไม่เสียหายอะไร เพราะเกี่ยวกับข้อคิดในการวิเคราะห์ระบบ
สวัสดีครับ
ครรชิต
20
กรกฏาคม 2548
|