Current Duties
Courses
ICT Ideas
ICT Education
ICT Management
ICT Principles
ICT Standards
ICT Vocabulary
CMM / CMMI
Case Studies
General Articles
Presentations
Book Reviews
Buddhism
Personal Efficiency
Writing Guides
Research Guides
VIP
Q & A
Contacts
Archive

คำแนะนำด้านการเรียน
ข้อสอบสนุก

       

 

Home
IT Idea for Spiritization

คำทักทาย ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2548

สวัสดีครับ

กรมอุตุนิยมวิทยาบอกกล่าวว่าฤดูฝนของไทยปีนี้เริ่มต้นวันที่ 13 พฤษภาคม ผมไม่ทราบว่าผู้เชี่ยวชาญของกรมฯใช้วิธีการคำนวณอย่างไร แต่หลังจากนั้นไม่นานฝนก็เริ่มตกลงมาประปราย และ มากขึ้น ในช่วงต้นปีหลายคนเป็นกังวลเรื่องฝนแล้ง แล้วรัฐบาลก็ออกมาบอกว่ากำลังเร่งรีบทำฝนหลวง จากนั้นก็มีข่าวเรื่องการโกงกินสารเคมีที่ใช้ทำฝนหลวง ต่อมาอีกไม่ช้าข่าวคราวเรื่องการทำฝนหลวงก็ซาไป ทั้งๆ ที่หลายพื้นที่ก็ยังแล้งอย่างเดิม ที่เขียนมายืดยาวนี้ก็เพื่อให้เห็นปัญหาเรื่องข่าวสารของไทย นั่นคือบรรดาสื่อต่างๆ สนใจเสนอเรื่องราวต่างๆ เหมือนดาวตก คือวูบวาบชั่วครั้งชั่วคราวแล้วก็หายไป ทั้งๆ ที่เรื่องเหล่านั้นยังไม่ได้ยุติ

ผมคิดว่าเราต้องหัดติดตามนำเสนอและศึกษาข่าวให้ครบ เมื่อเป็นข่าวแล้วไปจบลงอย่างไร ลงเอยกันอย่างไร แบบนี้เราก็จะได้เรียนรู้จากข่าวสารอย่างจริงจัง และคนไทยทั้งประเทศก็จะก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง การที่เราเสนอข่าวแบบฉาบฉวยนั้นทำให้เราไม่ได้เรียนรู้ความเป็นไปของเหตุการณ์ต่างๆ อย่างแท้จริง แล้วไม่ช้าเหตุการณ์ทำนองนั้นก็จะเกิดขึ้นอีก ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย และ คนไทยก็จะเจ็บตัวต่อไปอีกโดยไม่ได้เรียนรู้จากบทเรียนที่เกิดขึ้น

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเดินทางไปภูเก็ตช่วงสั้นๆ แต่ไม่ได้มีโอกาสเดินดูบาดแผลจากสึนามิเมื่อปลายปีก่อนเลย แต่กระนั้นก็ยังสัมผัสได้ถึงความเงียบเหงาที่แผ่ปกคลุมไปทั้งเมือง ผมไปพักที่คลับอันดามัน แอนด์ รีสอร์ต ซึ่งเป็นโรงแรมใหญ่ที่หาดป่าตอง นอกจากพวกเรากลุ่มใหญ่แล้ว ก็มีคนต่างประเทศเพียงไม่กี่คนเท่านั้น โดยทั่วไปแล้วเวลานี้โรงแรมเกือบทุกแห่งมีอัตราการเข้าพักน้อยกว่า 20% นั่นหมายความว่ารายได้ของโรงแรมเหล่านี้ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายซึ่งเกิดขึ้นตลอดเวลา และนั่นหมายถึงเศรษฐกิจของภูเก็ตเองก็คงจะไม่ดีเหมือนที่เคยเป็นในอดีต

ผมเป็นเพียงคนธรรมดาที่ไม่สามารถจะช่วยแก้ไขอะไรได้ นอกจากนำเสนอสิ่งที่เห็นให้ทราบ ผมเองคิดว่ากระทรวงไอซีที น่าจะต้องรีบเร่งพัฒนา ICT City ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว การพัฒนาคนจะต้องรีบเร่งมากกว่าที่เป็นอยู่ การส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ และ SME ทางด้าน ICT ก็จะต้องโหมให้หนักมากขึ้น แต่ไปๆมาๆแล้ว ผมก็คิดว่าปัญหาสำคัญก็คือ เมื่อมีกิจการเกิดขึ้นแล้ว ใครจะซื้อผลิตภัณฑ์ ICT เหล่านี้

หลายปีมาแล้ว เพื่อนรุ่นน้องของผมคนหนึ่งพยายามไปเปิดบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เชียงใหม่ แต่ก็ต้องกลับมารับงานกินเงินเดือนต่อที่กรุงเทพฯ เพราะ หาลูกค้าไม่ได้ เวลานี้มีบริษัทซอฟต์แวร์ที่เชียงใหม่เกิดขึ้นหลายรายแล้ว แต่ลูกค้ายังมีน้อย คนที่พยายามจะเปิดบริษัทรายใหม่ก็ทำท่าว่าจะไปไม่รอด เชียงใหม่กับภูเก็ตก็คล้ายกันในแบบนี้ คือ ลูกค้ายังมีน้อย เพราะบริษัทและหน่วยงานต่างๆ ยังไม่ใช้คอมพิวเตอร์กันมากนัก หากมีการส่งเสริมให้ใช้คอมพิวเตอร์กันมากขึ้นแล้ว กิจการไอซีทีก็คงจะเกิดได้ และ ICT City ก็คงเป็นจริงได้

ทำไมการใช้ ICT ของไทยยังไม่ก้าวหน้าเป็นเรื่องที่ต้องศึกษากันต่อไป ตอนนี้ผมขอเสนอสาเหตุไว้เพียงข้อเดียวก่อน นั่นคือการขาดคนที่เชี่ยวชาญ ICT อย่างแท้จริง เวลานี้มีคนรู้ ICT มากมายหลายคน แต่คนที่เชี่ยวชาญมีน้อย ทำให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ก็ลุ่มๆดอนๆ การนำ ICT ไปใช้ในบริษัทหรือหน่วยงานต่างๆ ก็ไม่สามารถช่วยให้ผู้ใช้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลดีเท่าที่ควร ผลที่สุดคอมพิวเตอร์ก็กลายเป็นเพียงเครื่องพิมพ์ดีด และอินเทอร์เน็ตก็เป็นเพียงระบบส่งจดหมาย

ขอเสนอให้ช่วยกันคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังมากขึ้นครับ เพราะหากเรายังขาดคนที่เชี่ยวชาญอย่างนี้ เราก็ไม่มีทางที่จะทำให้ ICT ของเราเติบโตได้เลย

ครับ...สำหรับวันนี้ ผมนำเอา Presentation เกี่ยวกับ Knowledge Management ที่ผมไปบรรยายที่ภูเก็ตมาฝาก พร้อมกับเรื่อง วิสัยทัศน์ในการสร้างความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ ที่ผมไปบรรยายในสัมมนาของนักศึกษาปริญญาโทศรีปทุม และเรื่องอื่นๆ อีกสองสามเรื่อง ขอเชิญติดตามครับ

ครรชิต มาลัยวงศ์์

Back