สวัสดีครับ
ฤดูกาลผันเปลี่ยนหมุนเวียนไปรวดเร็วเหลือเกินครับ
เราเพิ่งจะผ่านปีใหม่มาหยก ๆ
เราเพิ่งพบวิกฤติการณ์ไข้หวัดนกมาชนิดที่หลายคนยังไม่ทันจะเริ่มกลับมากินไก่อีกครั้ง
แล้ววันนี้ไทยเราก็เริ่มย่างเข้าสู่ฤดูร้อนอีกครั้ง
แต่เป็นฤดูร้อนที่แปลกเพราะมีกระแสลมเย็นพัดผ่านเข้ามาเป็นระยะ
ๆ
ทำให้เกิดฝนตกลงมาประปรายแบบที่เรียกว่าฝนชะช่อมะม่วง
ท่านอาจารย์สุธรรม อารีกุล อดีตอธิการบดี
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เล่าให้ฟังว่า
ถ้าหากฝนมีปริมาณน้อยยอดมะม่วงจะมีเพลี้ยเกาะและไม่ติดลูก
แต่ถ้าหากฝนตกหนักมากสักหน่อย
น้ำฝนจะชะเพลี้ยเหล่านี้ไปหมด
และต้นมะม่วงจะให้ผลดี
ที่กล่าวมานี้ก็เป็นความรู้อันเป็นภูมิปัญญาและวิทยาศาสตร์ของไทย
เราต้องรีบเร่งช่วยกันค้นคว้าเก็บความรู้เหล่านี้เอาไว้ให้เป็นระบบเพื่อถ่ายทอดลงไปสู่คนไทยในอนาคต
เวลานี้เป็นเรื่องดีที่เราเริ่มเห็นความสำคัญของสารสนเทศและความรู้กันมากขึ้นแล้ว
แต่จำนวนผู้สนใจยังน้อยไป
และเยาวชนไทยเองก็ยังสนใจน้อยเกินไป
ผมจึงอยากจะเชิญชวนมิตรสหายที่สนใจอ่านเว็บของผมให้ช่วยกันแก้ไขจุดอ่อนของคนไทยในด้านนี้
นั่นคือช่วยกันผลักดันให้เยาวชนไทยมีความใฝ่รู้มากขึ้น
รักทรัพยากรธรรมชาติมากขึ้น
ไม่จ้องแต่จะทำลายสินทรัพย์ที่ติดมากับพื้นแผ่นดินไทยให้หมดไปอย่างที่ทำกันอยู่เวลานี้
นอกจากนั้นก็
อยากให้สนใจเรียนรู้ในเรื่องที่เป็นประโยชน์แก่ชีวิตและประเทศชาติมากขึ้น
ศึกษาศาสนาที่ตนเองนับถือให้ลึกซึ้งมากขึ้น
มีคุณธรรม และ ศีลธรรมมากขึ้น
พวกเราคงไม่อยากให้ประเทศไทยอันเป็นที่รักของเราต้องตกต่ำในสายตาของชาวโลก
แต่ถ้าหากวิถีชีวิตของคนไทยยังคงเป็นอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้
เราก็คงไม่มีวันที่จะเห็นประเทศไทยรุ่งเรืองเหมือนประเทศอื่น
ๆ ได้
ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา
ผมมัวยุ่งอยู่กับการสะสางงานจึงไม่มีเวลาไปร่วมงานที่น่าสนใจหลายงานด้วยกัน
เช่นการเปิดสาขาสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติที่ภูเก็ตเมื่อวันที่
1 มีนาคม
หรือการจัดงานสมัชชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีครั้งที่
3 ที่อิมแพค เมืองทองธานี
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม
งานแรกนั้นต้องบอกว่าเสียดายครับเพราะผมเป็นกรรมการบริหารของสำนักงานนี้จึงควรไปร่วมด้วย
ส่วนงานที่สองนั้นผมก็เสียดายเหมือนกัน
แต่ไม่ได้เสียดายที่ไม่ได้ไปร่วมนะครับ
ผมเสียดายเงินค่าจัดมากกว่าครับเพราะงานนี้ใช้งบประมาณไป
14
ล้านบาทเพียงเพื่อจัดงานวันเดียวเท่านั้น
แล้วงานนี้ก็จะเหมือนงานสมัชชาที่เคยจัดมาแล้ว
นั่นก็คือลงท้ายก็จะได้หนังสือสรุปเรื่องที่พูดกันมาหนึ่งเล่ม
จากนั้นก็นำไปวางไว้บนหิ้งอีกหนึ่งเล่ม
เพราะเรื่องที่สรุป ๆ
กันก็เป็นเรื่องที่รู้อยู่แล้วทั้งนั้น
ผมคิดว่าเรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนี่เรายังเดินไม่ค่อยจะถูกทาง
การตั้งให้เป็นกระทรวงนั้นโดยหลักการแล้วน่าจะเป็นการจัดให้มีหน่วยงานสำหรับสนับสนุน
แต่ไป ๆ มา ๆ
กระทรวงก็หันมาเล่นบทบาทควบคุมมากกว่าส่งเสริม
มิหนำซ้ำการดำเนินการยังพลั้งพลาด
ก่อให้เกิดปัญหาตามมาดังเช่นกรณีของการสร้างเขื่อนราศีไศล
และ การก่อสร้างเตาปฏิกรณ์ปรมาณูที่องครักษ์
ซึ่งทั้งสองกรณีได้ทำให้เกิดการประท้วงอย่างยืดยาวต่อมา
แทนที่จะคิดกันว่าวิทยาศาสตร์ไทยจะไปทางไหน
ควรจะสัมมนาว่ากระทรวงวิทย์ฯ และ สวทช.
น่าจะไปทางไหนมากกว่า
เท่าที่ผ่านมารู้สึกว่า สวทช. จะชอบจัดงานแบบนี้
แต่ในอนาคตน่าจะลองเปลี่ยนมาจัดสมัชชาแบบ
Webcast ดูบ้าง หรือไม่ก็เปิด
Web Board
ให้แลกเปลี่ยนทัศนะกันเป็นกลุ่ม ๆ
เงินทองก็ไม่ต้องเสียมากนัก
อีกทั้งยังจะได้ความคิดจากคนไทยกว้างขวางมากขึ้นไปอีก
สำหรับในเว็บของผมช่วงครึ่งเดือนมีนาคมนี้
ผมมีแต่เรื่องหนังสือมาให้อ่านสองเล่ม
ส่วนเรื่องอื่น ๆ
ที่เตรียมไว้นั้นยังไม่สมบูรณ์จึงยังนำมาให้อ่านไม่ได้ครับ
ขอผัดไปเป็นคราวหน้าก็แล้วกัน
พบกันในเมษานะครับ
สวัสดีครับ
ครรชิต มาลัยวงศ์
17 มีนาคม 2004
|