สวัสดีครับ

    ขณะนี้เราก็ได้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว พวกเราก็หวังว่ารัฐมนตรีทั้งหลายจะบริหารประเทศให้ก้าวหน้ามากขึ้นได้
โดยเฉพาะในยามที่เรากำลังประสบปัญหาร้ายแรงหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภัยก่อการร้ายในสามจังหวัดภาคใต้ ภัยแล้งที่กำลังลามไปถึง 66 จังหวัด ภัยไข้หวัดนกที่ยังแอบซุกซ่อนอยู่ที่ไหนก็ไม่ทราบ โรคเอดส์ที่ยังแพร่กระจายไปเรื่อย ๆ และยังไม่มีวิธีกำจัดได้ง่าย ๆ ปัญหายาเสพติดที่ไม่มีวันหมดสิ้นตราบใดที่ยังมีคนเห็นว่าเป็นวิธีหาเงินได้ง่าย ๆ ความยากจนที่บ่อนทำลาย
คนไทยส่วนใหญ่ทั่วประเทศ และเรื่องสำคัญที่สุดก็คือโรคคอร์รัปชันที่ระบาดจากระดับนักการเมืองไปถึงระดับรากหญ้า

    ประเด็นที่น่าคิดเกี่ยวกับการบริหารบ้านเมืองก็คือ นักการเมืองที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งบริหารประเทศล้วนคิดว่าขณะนี้ตนเองเป็นนายประชาชน ดังนั้นนักการเมืองที่เริ่มมีอำนาจ
ก็จะเรียกร้องขอรถตำรวจนำหน้า เรียกร้องให้ข้าราชการเข้าไปรับใช้ สั่งการให้ใครต่อใครทำงานตามใจชอบไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
หรือไม่ ข้างฝ่ายที่ปรึกษาก็อาศัยตำแหน่งของลูกพี่ในการเรียกร้องให้ใครต่อใครมารับใช้ ให้จัดซื้อจัดหาสิ่งต่าง ๆ ที่ตนจะได้ประโยชน์
รวมทั้งต่างก็คิดเมกะโปรเจ็กต์กันเป็นว่าเล่น

    ยุคนี้เป็นยุค e โดยทั่วไปแล้ว e- อะไรก็ดีไปทั้งนั้น แต่ผมคิดว่า ถ้าหาก รัฐมนตรี และ ข้าราชการการเมือง จะลด ego ลงได้ และเปลี่ยนความคิดว่าตนเองเป็นผู้ที่รับอาสามาทำงานให้ประเทศ หรือพัฒนาให้ประเทศก้าวหน้าได้โดยไม่หวังผลตอบแทน อีกทั้งพยายามฟังเสียงว่าประชาชนต้องการอะไร ไม่ใช่คิดแต่เพียงว่าพรรคพวกเพื่อนฝูงลูกเมียของตนต้องการแล้วละก็ ประเทศของเราก็คงจะก้าวหน้ามากไปกว่านี้อีกมากทีเดียว

    ก็ขอฝากไว้แค่นี้แหละครับ เวลานี้บ้านเมืองของเรากำลังยุ่งยากคับขันจากปัญหานานัปการ ผมอยากฝากให้นักการเมือง
ช่วยกันแก้ปัญหาให้เต็มที่ อย่าทำร้ายประเทศของเราให้มากไปกว่านี้เลยครับในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้ ผมมีงานค่อนข้างยุ่ง
จึงยังไม่มีเวลาเตรียมเอกสารมาลงในเว็บมากนัก พอดีไปอ่านพบเรื่อง e- Hospital ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เข้า
จำได้ว่าผมเคยไปคุยกับ นพ. ชาตรี ดวงเนตร เกี่ยวกับเรื่องนี้มาครั้งหนึ่ง ผมจึงเก็บใจความจาก นสพ. Telecom Journal
ที่ลงเรื่องนี้มาฝากท่านผู้ชมเว็บ พร้อมกับความเห็นบางส่วนของผมด้วย

ครรชิต มาลัยวงศ์
15 มีนาคม 2548