Current Duties
Courses
ICT Ideas
ICT Education
ICT Management
ICT Principles
ICT Standards
ICT Vocabulary
CMM / CMMI
Case Studies
General Articles
Presentations
Book Reviews
Buddhism
Personal Efficiency
Writing Guides
Research Guides
VIP
Q & A
Contacts
Archive

คำแนะนำด้านการเรียน
ข้อสอบสนุก

 

Home
IT Idea for Spiritization

คำทักทาย ณ วันที่ 12 มีนาคม 2004

สวัสดีครับ

                พบกันอีกครั้งสำหรับเรื่องราวที่น่าสนใจทางด้านไอที   คราวนี้ผมไม่ค่อยมีข่าวสารมาวิพากษ์วิจารณ์มากเท่าใดนัก  เพราะช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ผมไปอยู่ที่ฮานอยเสียสิบวัน ถ้าอย่างนั้นขอเล่าเรื่องฮานอยก็แล้วกันครับ

                ฮานอยซึ่งเป็นเมืองหลวงของเวียดนามนั้น  เป็นเมืองที่เก่าแก่และมีวัฒนธรรมมานานไม่แพ้ประเทศไทยเลยครับ  ในขณะที่เราภูมิใจว่าเรามีตัวอักษรไทยใช้มากว่า 700 ปี และประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ของเราตั้งต้นที่นั่น  แต่เขามีประวัติศาสตร์ยืนยาวมานับพัน ๆ ปีแล้ว  อีกทั้งยังมีประวัติการรบพุ่งกับจีนมาโดยตลอด   เวียดนามอาจจะโชคร้ายที่ตกไปเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสเป็นเวลานาน  จนต้องมีขบวนการกู้ชาติ  ต่อจากนั้นก็ยังต้องทำสงครามกับสหรัฐอเมริกาที่พยายามจะยันไม่ให้เวียดกงเข้าครอบครองเวียดนามใต้  กว่าจะรบชนะ  เวียดนามทั้งประเทศก็สะบักสะบอมไปมาก

                ผมเคยมาฮานอยหลายครั้ง  และครั้งแรกที่มานั้นก็เมื่อสิบกว่าปีแล้ว  ยุคนั้นฮานอยยังเงียบเหงา  ยามค่ำไม่มีผู้เดินถนน  ไฟฟ้ายังไม่มีให้ใช้อย่างพอเพียง  รถยนต์ก็มีน้อยคัน  แต่มาปัจจุบันนี้ฮานอยคึกคักมากขึ้น  คนเดินถนนกันขวักไขว่  รถยนต์รุ่นใหม่ก็มีเหมือนกันแม้ว่าจะน้อยกว่าในกรุงเทพฯ  แต่รถจักรยานยนต์นั้นเขามีมากกว่าเราครับ  แต่ละแยกที่ติดไฟสัญญาณจราจรนั้นจะมีรถจักรยานยนต์มาจอดรอนับเป็นสิบ ๆ หรืออาจจะร้อยคันทีเดียว

                ผมชอบฮานอยตรงที่มีแม่น้ำแดงซึ่งเป็นแม่น้ำสายใหญ่มาก  ใหญ่กว่าเจ้าพระยาของเราหลายเท่า  และในตัวเมืองก็มีทะเลสาบใหญ่ ๆ หลายแห่ง  รอบ ๆ ทะเลสาบนั้นทำเป็นทางเดินให้คนมาออกกำลังกายและพักผ่อน  ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีมิจฉาชีพด้วย  เมื่อผมมาสี่ปีก่อนนี้ เพื่อนฟิลิปปินส์ของผมก็ถูกล้วนกระเป๋าเอาเงินและหนังสือเดินทางไป  ต้องเสียเวลาไปนาน

                ร้านหนังสือของเขามีมากครับ  หนังสือแปลก็มีมาก  มีทั้งนิยายและประวัติบุคคลสำคัญ แม้แต่หนังสือระดับคลาสสิกก็มี  และรู้สึกจะมีมากกว่าหนังสือแปลในไทยอีก   แน่นอนครับแฮรรี พอตเตอร์นั้นก็มีแปลเหมือนกัน  ที่น่าเสียดายก็คือไม่มีหนังสือเกี่ยวกับเวียดนามที่เป็นภาษาอังกฤษมากนัก   แต่ของไทยก็ไม่มีเหมือนกัน

                ผมไปเที่ยวชมวัดมาแห่งหนึ่ง  แต่ไม่มีโอกาสเข้าไปในวิหาร เพราะขณะนั้นมีสุภาพสตรีเวียดนามมาสวดมนต์พร้อม ๆ กันร่วมร้อยคน  ที่ประทับใจก็คือหน้าวัดมีหนังสือเกี่ยวกับพุทธศาสนาเป็นภาษาเวียดนามขายหลายเล่ม  ในขณะที่วัดไทยทั้งหลายไม่ค่อยมีสิ่งประเทืองปัญญาแบบนี้เลย  ถ้าจะมีขายก็มีแต่วัตถุมงคล   หากเรายังไม่ส่งเสริมความรู้กันจริงจัง  ไม่ช้าคนไทยก็จะไม่เข้าวัด และคนไทยก็คงจะเป็นพวกวัตถุนิยมมากขึ้น  แบบนี้เราคงจะทำนายอนาคตของประเทศของเราได้ไม่ยาก จริงไหมครับ

พบกันในเมษานะครับ
สวัสดีครับ
ครรชิต มาลัยวงศ์
12 มีนาคม 2004 

 

Back