เมื่อครั้งที่ผมเป็น Fulbright Visiting Scholar ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิรกเล่ย์นั้น ผมติดตามดูฟุตบอลอเมริกันตลอดเวลา ช่วงนั้นทีมซานฟรานซินโก 49er กำลังมาแรงด้วยฝีมือของโจ มอนตานา
การแข่งขันฟุตบอลอเมริกันแต่ละคู่ใช้เวลานานมาก ในตอนแรกก็ดูน่าเบื่อ เพราะเล่นไปหยุดไป ไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร แต่เมื่อเข้าใจกฎกติกามากขึ้น ผมก็ชอบมากขึ้นเพราะดูไปดูมาแล้วกีฬานี้เหมือนชีวิตคนทั่วไปนั่นเอง
คนหลายคนกำหนดเป้าหมายของชีวิตและพยายามดำเนินชีวิตให้ไปถึงเป้าหมายให้ได้ ทีมฟุตบอลอเมริกันก็เช่นกัน เป้าหมายหลักก็คือต้องการเอาชนะคู่แข่ง และพยายามทำทุกอย่างให้ชนะคู่แข่ง แต่ความพยายามนั้นก็ต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์และกติกาของเกม ชีวิตคนก็เหมือนกัน ต้องดำเนินไปภายใต้กฎหมาย
ผู้เล่นในทีมฟุตบอลนั้นมีหลายตำแหน่งหลายหน้าที่ คนเราก็เช่นกันเมื่อมีงานทำแล้วก็อาจจะถูกมอบหมายให้ทำงานในตำแหน่งต่าง ๆ
การที่ทีมฟุตบอลจะเล่นชนะคู่แข่งได้ก็ต้องมีโค้ชคอยแนะวิธีการเล่น และก่อนที่ทุกคนจะได้รับตำแหน่งก็ต้องเรียนรู้หน้าที่ก่อน ในชีวิตจริงนั้นคนเราได้เรียนรู้ในช่วงต้นของชีวิตในโรงเรียน วิทยาลัย และมหาวิทยาลัย ครั้นพอเริ่มทำงานแล้ว หลายคนไม่มีโอกาสได้รับการแนะนำจากโค้ชชีวิตจริงอีก แต่บางคนก็โชคดีได้ทำงานกับหัวหน้าที่ดีผู้คอยแนะนำ และสอนให้มีความสามารถเพิ่มมากขึ้น การเล่นฟุตบอลอเมริกันนั้น โค้ชมีส่วนสำคัญมากเพราะเป็นผู้เห็นสถานการณ์ต่างๆ ในสนามได้ชัดเจน ในขณะที่ผู้เล่นแต่ละคนแม้จะเห็นเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ไม่เห็นภาพรวมทั้งหมด ดังนั้นการแก้ไขสถานการณ์จึงอาจจะเป็นเรื่องเฉพาะหน้าเท่านั้น ไม่ใช่การแก้ไขที่ดีที่สุด ต้องอาศัยโค้ชมาช่วยแนะนำ
จริงๆ แล้วโค้ชในชีวิตจริงมีความสำคัญมาก โค้ชในชีวิตจริงมีหลายรูปแบบ เช่นกัลยาณมิตร หมอดู พระสงฆ์ แพทย์ ตำรวจ ทนาย รวมไปถึงหนังสือต่างๆ ด้วย
การเล่นของควอเตอร์แบ็คซึ่งถือกันว่าเป็นแม่ทัพฝ่ายรุกนั้น ส่วนใหญ่เป็นไปตามคำแนะนำของโค้ชซึ่งเป็นกลยุทธ์มากมายหลายแบบสำหรับใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ชีวิตของคนเรานั้นไม่ค่อยมีกลยุทธ์ที่ลึกซึ้งมากนัก แต่บางคนก็มีกลยุทธ์ที่ลึกล้ำโดยเฉพาะบรรดานักการเมืองและนักกินเมือง
การเล่นฟุตบอลอเมริกันนั้นถึงแม้จะมีกติกาง่ายๆ แต่การเล่นก็มีเทคนิคหลากหลายแบบ ในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามผมคิดว่าชีวิตคนนั้นยังมีรูปแบบที่หลากหลายกว่า และคาดเดาได้ยากกว่าการเล่นฟุตบอลอเมริกันมากทีเดียว ชีวิตคนเราจึงสามารถพลิกผันได้ง่ายๆ เหมือนกับเกมฟุตบอลซึ่งเพียงชั่วพริบตาเดียวฝ่ายที่นำอยู่อาจจะกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ได้
เกมฟุตบอลเมื่อเช้าวันที่ 6 กุมภาพันธ์ตามเวลาของไทยนั้น เป็นการแข่งขันซูเปอร์โบวล์ซึ่งเป็นการหาแชมเปียนประจำปี 2005 คู่แข่งก็คือ Puttsburgh Steeler และ Seattle Seahawk
ผมเปรียบการแข่งขันวันนี้ว่าเป็นการแข่งระหว่างฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ ทีมที่เป็นฝ่ายฮาร์ดแวร์ก็คือพิตตสเบิรก สตีลเลอร์ เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นมนุษย์เหล็ก หรืออีกนัยหนึ่งหมายความว่าพิตตสเบิรก เป็นเมืองอุตสาหกรรมหนัก ส่วนซีแอตเติล เป็นเมืองที่ตั้งของสำนักงานใหญ่บริษัทไมโครซอฟท์ นอกจากนั้นผู้อุดหนุนทีมนี้ก็คือรองประธานของบริษัทไมโครซอฟท์ ดังนั้นจึงเหมาะสมแล้วที่จะเรียกทีมนี้ว่าเป็นฝ่ายซอฟต์แวร์
ฝ่ายซอฟต์แวร์ทำคะแนนนำหน้าไปก่อนด้วยการเตะประตู แต่แล้วฝ่ายฮาร์ดแวร์ก็นำหน้าห่างด้วยการทำทัชดาวน์ หรือนำลูกเข้าไปสู่แดนหลังของฝ่ายรับได้ หลังจากนั้นฝ่ายฮาร์ดแวร์ก็นำหน้าต่อไปเรื่อยๆ โดยฝ่ายซอฟต์แวร์ไม่สามารถไล่ตามทัน
ปัญหาที่นำมาสู่ความพ่ายแพ้ของฝ่ายซอฟต์แวร์ก็คือ การทำผิดพลาดหลายครั้ง บางครั้งผิดพลาดอย่างโง่ๆ คือทำผิดกติกาจนทำให้ถูกลงโทษแทนที่จะได้คะแนน ความผิดพลาดนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประจำกับชีวิตคน บางครั้งเป็นความผิดพลาดที่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ แต่บางครั้งก็เป็นความผิดอย่างจงใจเพราะคิดว่าจะไม่มีใครจับได้ และความพลั้งเผลอเพียงเล็กน้อยก็นำไปสู่จุดจบ
ผู้ชนะหรือฝ่ายฮาร์ดแวร์ได้รับการโห่ร้องต้อนรับแสดงความยินดีอย่างยิ่งใหญ่ ในขณะที่ผู้แพ้เงื่องหงอยและไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรต่อไปอีก ชีวิตคนเราก็เหมือนกัน ผู้ชนะในด้านต่างๆ ได้รับการยกย่องชมเชย ได้รางวัล และเป็นข่าวใหญ่ แต่ผู้แพ้กลับถูกลืมเลือน และบางครั้งอาจถูกเยาะเย้ย ถากถางด้วย
ฟุตบอลอเมริกัน เป็นกีฬาที่คนไทยไม่สามารถเล่นได้ เพราะสรีระของคนไทยไม่ใหญ่โตพอที่จะเล่นได้ และการตั้งทีมก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล เพราะต้องมีผู้เล่นร่วมห้าสิบคน ไม่นับโค้ช และ ผู้ช่วยอีกมากมาย อย่างไรก็ตาม กีฬาชนิดนี้ก็อาจจะสอนเราได้หลายอย่าง โดยเฉพาะในด้านการคอยหมั่นตรวจสอบความก้าวหน้าของชีวิต แล้วคอยแก้ไขอยู่เสมอ หากเรามีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง และสามารถแก้ไขได้อย่างฉลาดแล้ว ชีวิตของเราก็มีโอการสประสบความสำเร็จได้ดี
แต่ถ้าเราปล่อยชีวิตให้ล่องลอยไปวันๆ เราก็คงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของชีวิตได้เลย