 |
|
|
 |
งานวิทยาศาสตร์ทางจิตดร. ครรชิต มาลัยวงศ์ งานวิทยาศาสตร์ทางจิตนั้นจัดต่อเนื่องมานับทศวรรษแล้ว ผมเคยไปงานนี้มาหลายหนด้วยกัน แต่ส่วนมากมักจะไปเดินดูอย่างฉาบฉวยไม่ค่อยได้มีโอกาสสัมผัสกับบรรยากาศอย่างลึกซึ้งมากนัก นอกจากนั้นบางปีก็ไม่มีโอกาสเพราะติดเดินทางไปต่างประเทศหรือไม่ก็ไปต่างจังหวัด ทำให้พลาดโอกาสที่จะไปเดินดูว่าความสนใจของคนไทยทางด้านนี้เพิ่มมากขึ้นเพียงใด อย่างเมื่อปีที่แล้วเขาจัดงานกันที่ศูนย์การค้าที่เกือบร้างแห่งหนึ่งแถวหัวหมาก ปรากฏว่างานกร่อยมาก ไม่ค่อยมีอะไรให้ดูนัก นอกจากร้านขายหินและคริสตัล และร้านขายอุปกรณ์สุขภาพ ผู้คนที่มาเดินในงานก็น้อยเหลือเกิน ผมไปเดินอยู่แค่เพียงยี่สิบนาทีก็กลับ สำหรับคราวนี้งานจัดระหว่างวันท 9 ถึง 12 ธันวาคม ที่สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตจักรพงษ์ภูวนาถ ซึ่งอยู่ที่ถนนวิภาวดีรังสิต ตรงหัวถนนที่จะเข้าไปยังมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สถานที่จัดคราวนี้กว้างขวาง นอกจากนั้นยังไปอาศัยสนามหญ้าของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรสำหรับจอดรถยนต์ได้ด้วย ทำให้มีผู้มาชมงานครั้งนี้มากมายหลายหมื่นคน รวมแล้วต้องบอกว่างานนี้ประสบความสำเร็จดีมาก แต่คงจะทำให้หญ้าในสนามของ วปอ. เหี่ยวแห้งไปอีกนาน เพราะมีผู้นำรถยนต์มาจอดกันหนาแน่นตลอดวัน การจัดงานคราวนี้ ใช้ส่วนหนึ่งของสนามหญ้าตั้งเต๊นท์ไว้สามกลุ่มด้วยกัน และเว้นที่อีกส่วนหนึ่งจัดทำเวทีสำหรับบรรยายกลางแจ้ง ส่วนด้านหน้าเวทีก็ตั้งเก้าอี้พลาสติกเอาไว้ร้อยกว่าตัว การบรรยายที่เวทีนี้มีตลอดวัน บรรยากาศสองวันแรกสบายๆ เพราะฟ้าครึ้มถึงแม้ลมหนาวจะยังพัดมาไม่ถึงแต่ก็ไม่ร้อน ส่วนอีกสองวันต่อมาอากาศเริ่มร้อนเพราะฟ้าเปิด แสงแดดทำให้คนเดินชมงานไม่สบายเนื้อสบายตัวเหมือนสองวันแรก นอกจากที่สนามหญ้าแล้ว ผู้จัดงานยังใช้เนื้อที่ว่างใต้อาคารสูงด้านหน้าสำหรับตั้งบูธอีกประมาณสิบกว่าบูธ และด้านบนของอาคารก็เปิดห้องสำหรับบรรยายและปฏิบัติธรรมอีกหลายห้อง นอกจากนั้นยังใช้เนื้อที่อีกอาคารหนึ่งจัดทำเป็นห้องพิเศษเพื่อตั้งแสดงพระสารีริกธาตุ และ พระอัฐิธาตุของพระอรหันต์หลายองค์ให้ผู้มาชมงานได้นมัสการ ร้านที่มาออกบูธในงานมีหลากหลาย ขาประจำก็คือร้านขายหินและคริสตัล ร้านขายเครื่องรางแปลกๆ เช่น คตประเภทต่างๆ ร้านแสดงและขายซีดีเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวของขาประจำซึ่งเป็นประธานในพิธีปิดนั่นคือ นพ. เทพนม เมืองแมน ร้านขายสมุนไพรและยาเสริมสุขภาพ ร้านนวดเท้าแบบไต้หวัน บูธแนะนำการฝึกซี่กงแบบฝ่าหลุนกงซึ่งมีผู้คนสนใจฝึกคึกคัก นอกจากนั้นที่ด้านหนึ่งของสนามใกล้ๆ กับฝ่าหลุนกง ก็กั้นเป็นคอกให้ผู้เข้าร่วมงานฝึกกสิณแบบต่างๆ ด้วย สำหรับที่ขาดไม่ได้ก็คือร้านขายหนังสือ ซึ่งมีหลายร้านโดยเฉพาะ "โลกทิพย์" ซึ่งเข้าใจว่าเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ ในวันแรกที่ผมไปเที่ยวชมงานนั้น ผมพบคุณเสริมสุขเพื่อนสุภาพสตรีผู้หนึ่งซึ่งไม่ได้พบกันมานานหลายสิบปีแล้ว คุณเสริมสุขสนใจเรื่องนี้มานานแล้วและเพียงคุยกับผมเดี๋ยวเดียว คุณเสริมสุขก็แนะนำการดูแลสุขภาพที่น่าสนใจให้ผมฟังหลายเรื่องด้วยกัน ที่น่าสนใจคือคุณเสริมสุขบอกถูกหมดว่าผมกำลังมีปัญหาสุขภาพอย่างไรบ้างและควรแก้ไขอย่างไร แสดงว่าผู้ที่ติดตามศึกษาเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องมานานนั้นเป็นผู้รู้จริง ส่วนผมเองเป็นผู้สนใจอย่างฉาบฉวยจึงรู้แบบปลอมๆ หรืองูๆ ปลาๆ ให้คำแนะนำใครไม่ได้ ผมนั่งที่หน้าเวทีกลางแจ้งและฟังคำบรรยายของวิทยากรหลายคนที่หมุนเวียนมาแนะนำเรื่องการออกกำลังกายแบบซี่กง และการสร้างพลังตามแนวสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี จากนั้นก็แวะไปนวดฝ่าเท้าซึ่งผู้นวดเป็นสุภาพสตรีอายุวัยกลางคนที่เรียนวิชานี้มาจากผู้เชี่ยวชาญชาวไต้หวัน แม้ป้าน้อยซึ่งเป็นชื่อสุภาพสตรีท่านนี้จะมีอายุมากแล้ว แต่นิ้วของท่านแข็งแกร่ง เมื่อกดลงไปบนจุดที่ฝ่าเท้าของผมก็ถึงกับทำให้เกิดความเจ็บปวดได้มากทีเดียว ป้าน้อยอธิบายจุดที่กดแล้วเจ็บว่าไปเกี่ยวข้องกับอวัยวะส่วนไหนที่กำลังบกพร่องบ้าง ซึ่งที่จริงก็ถูกเป็นส่วนใหญ่ เพราะจากการตรวจสุขภาพของผมในโรงพยาบาลนั้นก็พบปัญหาเหล่านี้เหมือนกัน นั่นก็คือโรคไขมันในเลือดซึ่งอาจจะทำให้เกิดผลร้ายอื่นๆ ตามมาได้ ต่อจากนั้นผมก็แวะซักถามผู้ที่มาออกบูธต่าง ๆ หลายแห่งแล้วซื้อหนังสือกลับมาหลายเล่มด้วยกันก่อนกลับบ้านเพราะวันแรกนี้ผมมีงานอื่นๆ ต้องทำหลายเรื่องจึงอยู่นานไม่ได้ ในวันต่อมา ผมจึงกลับไปเที่ยวงานอีกหน และคราวนี้ได้ไปกราบนมัสการพระสารีริกธาตุและพระอัฐิธาติในห้องแสดง เรื่องพระธาตุนั้นเป็นเรื่องอจินไตย สุดแท้แต่ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ คิดหาเหตุผลไม่ได อย่างเช่นผมเคยอ่านพบว่าพระธาตุนั้นเสด็จมาได้เอง และเสด็จไปได้เองหากผู้ที่มีพระธาตุอยู่แล้วประพฤติตนไม่ดีหรือไม่ได้สวดบูชาพระธาตุเป็นประจำ นอกจากนั้นผมยังเคยอ่านพบคาถาอัญเชิญพระธาตุด้วย ด้วยเหตุนี้เองวันหนึ่งผมจึงลองพิสูจน์ด้วยการสวดคาถาอัญเชิญพระธาตุในช่วงกลางคืนเป็นประจำโดยคาดหวังว่าท่านคงจะเสด็จมาโปรดผมตามคำเชิญ สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นก็เหนือความคาดหมายครับ เพราะเพียงอาทิตย์เดียวเท่านั้น ก็มีคนรู้จักกันนำพระธาตุมาให้ผมบูชาหลายองค์ด้วยกัน พูดง่ายๆ ก็คือ ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ครับ ดังนั้นท่านจึงเสด็จมาตามคำอัญเชิญในแบบวิทยาศาสตร์ ในงานนี้มีท่านผู้มีพลังจิตสูงมาชุมนุมกันมาก ท่านหนึ่งคือ พระอาจารย์สิงห์ทน ซึ่งผมเคยอ่านหนังสือของท่านเมื่อสามสิบกว่าปีก่อนสมัยที่ท่านช่วยงานของสมเด็จป๋าวัดโพธิ์อยู่ ต่อมาท่านได้ลาสิกขาไปเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วก็ลาออกไปประกอบธุรกิจ หลังจากนั้นท่านจึงกลับมาอุปสมบทใหม่ พระอาจารย์สิงห์ทนมีรังสีธรรมที่แก่กล้ามาก ท่านมีเมตตามาสวดมนต์และแผ่รังสีธรรมให้แก่ผู้มาร่วมงาน ทำนองและเสียงสวดมนต์ของท่านไพเราะมากครับ เสียดายที่ห้องเล็กไปในขณะที่ผู้ต้องการรับรังสีธรรมจากท่านมีมาก ผมเองก็ไปไม่ทันครับ ได้แต่ยืนฟังท่านสวดมนต์อยู่หน้าห้องเป็นระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น งานวิทยาศาสตร์ทางจิตเป็นงานที่มีของแปลกๆ หลายอย่างครับ ใครสนใจก็ต้องจำเอาไว้ว่างานนี้มีประจำทุกปีประมาณเดือนธันวาคมครับ ได้ข่าวว่ากรรมการจัดงานเขาสนใจอยากจะจัดที่นี่ใหม่ แต่ก็ต้องคอยฟังข่าวในอีกสิบเอ็ดเดือนข้างหน้าครับ |