Current Duties
Courses
ICT Ideas
ICT Education
ICT Management
ICT Principles
ICT Standards
ICT Vocabulary
CMM / CMMI
Case Studies
General Articles
Presentations
Book Reviews
Buddhism
Personal Efficiency
Writing Guides
Research Guides
VIP
Q & A
Contacts
Archive
Seminars
คำแนะนำด้านการเรียน
ข้อสอบสนุก

Home
IT Idea for Spiritization

นาโนเทคโนโลยี

ครรชิต มาลัยวงศ์ ราชบัณฑิต

10 ตุลาคม 48

           คำว่า nanotechnology ประกอบด้วยคำสองคำคือ nano กับ technology คำหลังนั้นเรารู้อยู่แล้วว่าคืออะไร ส่วนคำแรกคือ nano นั้นหมายถึงหน่วยนับเหมือนกับคำที่เราใช้ทั่วๆ ไป เช่น centi หมายถึงหนึ่งในร้อย (คำว่า cent เฉยๆ แปลว่า หนึ่งร้อย แต่เมื่อเติม i เข้าไป ก็จะกลายเป็นหนึ่งในร้อย) ดังนั้นเซนติเมตร ก็คือหนึ่งในร้อยของเมตร milli หมายถึงหนึ่งในพัน (ในทำนองเดียวกับ cent ที่กล่าวไปแล้ว mil หรือ mille หมายถึง หนึ่งพัน เมื่อเติม i เข้าไปก็กลายเป็นหนึ่งในพัน ความจริงหน่วยวัดระยะทางเป็นไมล์ หรือ mile ก็มีรากศัพท์เดียวกัน คือหมายถึง หนึ่งพันก้าว ใครไม่เชื่อก็ลองไปก้าวดูเองเถอะ) ดังนั้นมิลลิเมตรจึงหมายถึงหนึ่งในพันของเมตร ส่วน nano นั้นหมายถึงหนึ่งในพันล้าน (รากศัพท์เดิมแปลว่าเล็กมาก แล้วนักคณิตศาสตร์มากำหนดให้เป็นหนึ่งในพันล้าน) ดังนั้น นาโนเมตรก็คือ หนึ่งในพันล้านของเมตร อะไรก็ตามที่มีขนาดนาโนเมตรนั้นเล็กมากเหลือเกิน อย่างเช่นอะตอมของแก๊สฮีเลียมซึ่งเป็นธาตุชนิดหนึ่งนั้นยังมีขนาดเพียง 0.1 นาโนเมตรเท่านั้น

           นาโนเทคโนโลยี เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่มีขนาดเล็กมากๆ และเมื่อนักเทคโนโลยียิ่งวิจัยค้นคว้าทางด้านนี้มากขึ้น ก็ยิ่งเกิดความคิดที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ แปลกๆ ที่ไม่สามารถทำได้มาก่อนกับวัสดุที่มีขนาดปกติธรรมดา งานที่นักเทคโนโลยีกำลังสนใจมีมากด้วยกัน เช่น การพัฒนาวัสดุแบบใหม่ๆ ที่มีคุณสมบัติดีกว่าเดิม เช่น สารสำหรับอุดฟันที่ผนึกตัวกันได้อย่างแน่นหนาจนน้ำซึมเข้าไปไม่ได้ เส้นใยสังเคราะห์สำหรับใช้ทอเป็นผ้าที่มีคุณสมบัติกันลม กันน้ำ และกันคราบสิ่งสกปรกต่างๆ นานา สารสำหรับเคลือบผิวอุปกรณ์กีฬาประเภทต่างๆ ให้มีความคงทนและแข็งแรง ครีมทาผิวที่สามารถซึมเข้าไปสู่ใต้ผิวหนังได้ลึกมากขึ้นเพราะขนาดที่เล็กของมัน ทำให้สามารถทำปฏิกิริยากับชั้นใต้ผิวหนังได้ในระดับโมเลกุล จนเมื่อใช้แล้วสามารถทำให้ผิวหนังกระชับและต้านริ้วรอยได แว่นกันแดดที่สามารถลดการสะท้อนแสงป้องกันรอยขีดข่วน และคราบสกปรกต่างๆ ความเล็กละเอียดของวัสดุระดับนาโนเทียบกับขนาดธรรมดาก็เหมือนกับเปรียบเทียบทรายกับกรวด เมื่อเราเอากรวดมากองด้วยกันเราจะเห็นรูพรุนจำนวนมาก พอเทน้ำลงไปในชั้นกรวด น้ำก็หายวับไปในพริบตา แต่ถ้าเป็นชั้นทรายละเอียดจะต้องใช้เวลานานมากขึ้นกว่าน้ำจะซึมหายไปได้หมด

           ในทางด้านไอทีเอง นักวิจัยด้านนาโนเทคโนโลยีกำลังพัฒนาวงจรอิเล็กทรอนิกส์และสารใหม่ๆ สำหรับใช้กับคอมพิวเตอร์ เช่นจอภาพแบบแบน หน่วยความจำที่สามารถบันทึกข้อมูลได้มากขึ้น ประโยชน์เหล่านี้เองทำให้รัฐบาลหลายประเทศรวมทั้งของไทยด้วยเกิดความสนใจจนประกาศว่าจะต้องทุ่มเทงบประมาณพัฒนานาโนเทคโนโลยีเป็นการใหญ่ อย่างเช่นประเทศไทยของเรานี้ก็ได้ตั้งหน่วยงานนาโนเทค ภายใต้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขึ้นมาแล้ว แต่จะไปได้แค่ไหนคงต้องติดตามดูกันต่อไป ใครสนใจเทคโนโลยีนี้ควรไปเปิดอ่านรายละเอียดในเว็บ www.nanotec.or.th เองนะครับ


Home | Back