ผมได้รับคำถามเรื่อง
e-learning ทางอีเมล์จากผู้อ่านคนหนึ่ง คำถามมีว่า "ใครเป็นคนคิด
e-learning และ e-learning มาถึงเมืองไทยได้อย่างไร"
คำตอบ
คำตอบเรื่องเกี่ยวกับใครคิดอะไรก่อนนั้นมีทั้งที่ตอบได้ง่ายและตอบได้ยาก
ที่ตอบได้ง่ายก็คืออาจจะมีการบันทึกเอาไว้ในบทความวิชาการ หรือ ในคำบรรยายในที่ประชุมวิชาการว่าใครเป็นคนใช้ก่อนคนอื่น
แต่ที่ตอบได้ยากก็คือจะต้องค้นหา และการค้นหาในเมืองไทยนั้นทำได้ยาก
เพราะแม้จะเข้าเว็บได้ แต่ก็อาจจะไม่สามารถเรียกค้นดูบทความวิชาการที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการได้หมดทั้งนี้เพราะเจ้าของวารสารเขาคิดเงินค่าเปิด
(มิฉะนั้นเขาก็ขายไม่ได้) ยกเว้นแต่เมื่อผู้ค้นเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย
และ มหาวิทยาลัยนั้นสมัครเป็นสมาชิกเพื่อใช้บริการวารสารนั้นแบบออนไลน์ซึ่งแน่นอนก็จะต้องเสียเงินเป็นจำนวนไม่น้อย
เมื่อหลายปีมานี้เองทางทบวงมหาวิทยาลัยได้แจ้งแก้มหาวิทยาลัยของรัฐว่าไม่ต้องไปสมัครเป็นสมาชิกเอง
ทบวงจะทำตัวเป็นศูนย์กลางและสมัครเป็นสมาชิกวารสารต่าง ๆ ทางระบบอินเทอร์เน็ต
นิสิตนักศึกษาอาจเชื่อมโยงมาขอใช้บริการที่ทบวงได้ แต่มาปีนี้ทบวงบอกว่าไม่มีเงินงบประมาณจะเป็นสมาชิกเสียแล้ว
ใครอยากใช้ก็ให้ไปจ่ายเงินเอง นี่แหละครับก็คือความยาก และ ความยากจนทางด้านวิชาการของไทย
เขียนตอบมายืดยาว ยังไม่ได้เข้าเรื่อง เอาเป็นว่าผมไม่ได้ค้นหาคำตอบให้หรอกครับ
คำตอบผมมีง่าย ๆ ว่า ในยุคนี้ไม่มีใครคิดเรื่องที่แปลกกว่าคนอื่นคิดได้เร็วกว่าคนอื่นอีกแล้ว
นั่นหมายความว่า แนวคิดเรื่องอีเลิรนนิงนั้นก็คงจะมีคนคิดได้พร้อม
ๆ กันหลายคน และพัฒนาขึ้นมาพร้อมกันหลายคน สุดแท้แต่ว่าจะมีใครคิดได้ลึกซึ้งกว่า
และ พัฒนาได้น่าประทับใจกว่ากันเท่านั้น สำหรับการใช้ในเมืองไทยก็เหมือนกัน
มีอาจารย์หลายคนที่นำเอาบทเรียนบรรจุไว้ในเว็บให้นิสิตนักศึกษาอ่านหลายคน
และอาจจะทำในเวลาพร้อมกัน แต่ผมคิดว่าคนที่เริ่มผลักดันเรื่องนี้ก่อนน่าจะเป็น
อ. ยืน ภู่วรวรรณ ซึ่งทำเรื่องนี้ในขณะที่เป็นผู้อำนวยการสำนักบริการคอมพิวเตอร์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สำหรับเว็บของผมนั้นพยายามทำให้เป็นแบบอีเลิร์นนิงเหมือนกัน
แต่ก็ยังไม่มีเวลามากพอที่จะปรับปรุงหรือเพิ่มเติมเนื้อหาให้ดีได้
ดังนั้นเว็บของผมจึงไม่ใช่ตัวอย่างของอีเลิร์นนิง
มีคำถามต่อเนื่องว่า
จะประยุกต์อีเลิร์นนิงทางไหนได้บ้าง คำตอบก็คือ ในด้านการฝึกอบรม
การเรียนการสอน รวมทั้งการพัฒนาความรู้และทักษะส่วนตัวให้แก่คนทั่วไป
เช่น จะดูแลรักษาสุขภาพให้ตัวเองได้อย่างไร จะออกกำลังกายอย่างไรจะเหมาะ
เลยไปถึงการเล่นโยคะด้วย