CMM
มีประโยชน์อย่างไร
บริษัทหรือหน่วยงานซอฟต์แวร์ที่นำ
CMM มาใช้ จะพบว่าตนเองมีการทำงานที่เป็นระบบมากขึ้น การทำงานทุกอย่างมีร่องรอยหรือหลักฐาน
ให้ตรวจสอบได้ง่ายขึ้นและสมบูรณ์มากขึ้น มีการจดบันทึกรายละเอียดระหว่างการทำงานมากขึ้น
การเจรจากับลูกค้าก็มีการบันทึกเป็นหลักฐาน และมีการยืนยันทำความเข้าใจระหว่างกันมากขึ้น
เมื่อเกิดปัญหาขึ้นก็สามารถจะตรวจสอบได้ว่า ปัญหามาจากใคร และสมควรแก้ไขอย่างไร
เมื่อบริษัททำงานอย่างเป็นระบบมากขึ้น
โอกาสที่จะประสบผลสำเร็จในการทำงานก็มากขึ้น ชื่อเสียงของบริษัทก็จะดีขึ้น
และเป็นโอกาสที่จะทำให้ได้รับงานมากขึ้นตามไปด้วย
ในระดับประเทศนั้น
ผู้บริหารเห็นว่าอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์น่าจะเติบโตสูงได้ ลำพังการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับใช้ในประเทศก็มีความต้องการสูงอยู่แล้ว
แต่ความต้องการซอฟต์แวร์ระดับโลกก็ยังมีอีกมาก หากไทยสามารถพัฒนาบริษัทซอฟต์แวร์ไทย
ให้มีวุฒิภาวะความสามารถมากขึ้น ก็จะสามารถรับงานจากต่างประเทศ และทำรายได้เข้าประเทศได้อีกมาก
แต่การที่จะทำเช่นนั้นได้ เราจะต้องสามารถยืนยันให้ลูกค้าทราบได้ว่า
บริษัทซอฟต์แวร์ไทยมีวุฒิภาวะความสามารถสูงพอ นั่นทำให้ผู้บริหารเห็นว่าไทยน่าจะส่งเสริมให้มีการนำ
CMM มาใช้ในการวัดวุฒิภาวะความสามารถของบริษัท และหน่วยงานกันมากขึ้น
ประโยชน์ที่สำคัญก็คือ
บริษัทจะมีวัฒนธรรมการทำงานที่เป็นแบบเดียวกัน มีวิธีการปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานแต่ก็ยืดหยุ่น
เพราะจะแสวงหากลยุทธ์ในการปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
ผู้บริหารเห็นสภาพการทำงานของโครงการ ที่มีลักษณะเป็นนามธรรมได้อย่างชัดเจน
สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถเตรียมตัวแก้ปัญหาที่อาจจะเกิดในอนาคตได้เป็นอย่างดีด้วย
|